

สรุปข่าว
เชื่อว่าตอนนี้เจ้าของรถยนต์หลายคนๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเขตจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม มีความกังวลใจกับความเสียหายของรถยนต์ จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทที่ประกันไว้หรือไม่ เนื่องจากบางท่านไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถยนต์ไปยังจุดที่ปลอดภัยได้ วันนี้ TNN ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเคลมประกันมาให้ทราบกันครับ
ประกันชั้นไหนสามารถเคลมรถจมน้ำหรือความเสียหาที่เกิดจากน้ำท่วมได้บ้าง? แน่นอนว่าประกันชั้น 1 ทุกบริษัทครอบคลุมความเสียหายของรถคุณที่เกิดจากน้ำท่วมหมด ซึ่งผู้ทำประกันรูปแบบนี้สบายใจได้
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นประกันชั้น 1 ก็ยังมีข้อยกเว้นการคุ้มครอง อย่างกรณีน้ำท่วมรถยนต์ที่เกิดจากความประมาทของเจ้าของรถยนต์เอง เช่น เห็นอยู่แล้วว่าถนนข้างหน้าเกิดน้ำท่วมขัง แต่ก็ยังขับรถฝ่าเข้าไป รวมถึงกรณีคือ ที่หน่วยงานราชการออกประกาศว่า ถนนในพื้นที่นั้นๆ เป็นเขตน้ำท่วม แนะนำให้เลี่ยงเส้นทางนั้น แต่คุณก็ยังฝ่าขับรถเข้าไป ก็ถือเป็นความเสียหายที่เกิดจากความประมาทของคุณด้วยเหมือนกัน
ส่วนกรมธรรม์อื่นๆ อย่างประเภท 2+และ 3+ ปัจจุบันหลายบริษัทมีแพคเกจเสริม โดยตัวกรมธรรม์การระบุข้อความว่าคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไว้เช่นกัน ซึ่งสามารถเคลมประกันภัยได้ แต่อย่างไรก็ดีควรเช็คให้ชัวร์ว่ารูปแบบการทำประกันของคุณนั้น เลือกแพคเกจที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมไว้หรือไม่ หรือเลือกไว้จะได้รับความคุ้มครองเสียหายกี่% จากทุนประกัน
โดยความคุ้มครองของประกันรถยนต์กับน้ำท่วมหลักๆ ประกันจะแบ่งความเสียหายจากน้ำท่วมได้ 2 แบบ คือ การสูญเสียโดยสิ้นเชิงและความเสียหายบางส่วน
สำหรับความเสียหายแบบสูญเสียโดยสิ้นเชิง คือถูกน้ำท่วมจนมิดคัน หรือท่วมเกินคอนโซลหน้า นับเป็นความสร้างความเสียหายที่เกิดขึ้นทั่วทั้งห้องโดยสาร ซึ่งบริษัทประกันประเมินว่า ไม่คุ้มกับการซ่อมให้กลับมาเป็นสภาพเดิม ก็จะคุ้มครองโดยการจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกันเพื่อขอซื้อซากรถ
ส่วนความเสียหายบางส่วน กรณีดังกล่าววนี้สามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ ประกันภัยก็จะตีเป็นลักษณะความเสียหายบางส่วน โดยบริษัทประกันจะซ่อมแซมรถให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมและใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้บริษัทประกันรถยนต์จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
กรณีรถเสียหายบางส่วน ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิเสือกอู่ซ่อมได้ และในการประเมินราคาผู้เอาประกันภัยสามารถร่วมหรือหาผู้ประเมินของตนไปทำการประเมินอีกฝ่ายก็ได้
ขั้นตอนการ 'เคลม' ประกันภัยรถยนต์กรณีถูกน้ำท่วม
- ถ่ายรูปรถในขณะถูกน้ำท่วม โดยถ่ายให้เห็นทะเบียนรถ เพื่อให้ทราบว่านี่เป็นรถคันเดียวที่ทำประกันไว้
- ตรวจเช็คความเสียหายในห้องโดยสารพร้อมกับถ่ายรูปไว้ ที่สำคัญอย่าลืมบันทึกวันเวลาสถานที่ที่เกิดน้ำท่วมขึ้นไว้ด้วย
- ตรวจเช็คกรมธรรม์ และอ่านทำความเข้าใจเงื่อนไขให้ละเอียด
- แจ้งทำเคลมทางโทรศัพท์กับบริษัทประกันภัย
- นัดหมายการตรวจสภาพความเสียหายของรถยนต์กับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ว่าอยู่ในระดับใด ความเสียหายแบบสูญเสียโดยสิ้นเชิง หรือเสียหายบางส่วน
- กรณีเคลื่อนย้ายรถไม่ได้ต้องขอให้ทางบริษัทประกันส่งรถยกมาลากไป ในกรณีนี้ควรเช็คกับทางบริษัทฯ ด้วยว่าจะรับผิดชอบค่ายรถยกลากเท่าไหร่
- เมื่อนำรถได้รับการเข้าซ่อมแล้ว ให้เช็คระยะเวลาในการซ่อมด้วยว่ากี่วัน หากอู่ซ่อมล่าช้าเกินกำหนด โดยไม่มีเหตุผลอันควร ผู้เอาประกันสามารถเรียกร้องค่าขาดการใช้รถได้
สิ่งสำคัญที่สุดควรศึกษารายละเอียดว่าในกรมธรรม์ที่คุณทำประกันไว้ ระบุความคุ้มครองไว้อย่างไรบ้าง หรือหากไม่ได้ความเป็นธรรม สามารถสอบถามรายข้อมูลได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มาข้อมูล : -