การเติบใหญ่ขององค์กรพัฒนาชนบทแดนมังกร (ตอนจบ) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

การเติบใหญ่ขององค์กรพัฒนาชนบทแดนมังกร (ตอนจบ) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

เราไปติดตามดูแนวทางและวิธีการดำเนินงานเพื่อพัฒนา “ชนบท” จีนกันต่อครับ ...

นอกเหนือจากเอกชนจีน กิจการต่างชาติก็ยังถูกดึงเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการที่เกี่ยวข้อง อาทิ อะกริเทค (AgriTech) ความมั่นคงด้านอาหาร การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการจัดการของเสีย 

สิ่งนี้เชื่อมโยงไปถึงการยกระดับเทคโนโลยีและเครื่องจักรเครื่องมือทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท และยังครอบคลุมถึงเกษตรกรรายย่อยและภาคเกษตรกรรมในวงกว้าง

ความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมการเกษตรดังกล่าวถูกคาดหมายว่าจะก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยผู้เชี่ยวชาญจีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจการเกษตรดิจิทัลของจีนจะเติบโตกว่าเท่าตัวจากราว 600,000 ล้านหยวนในปี 2021 เป็นถึง 1,200,000 ล้านหยวนภายในปี 2025

ขอบข่ายดังกล่าวยังขยายวงอย่างกว้างไกล เพราะนอกจากการยกระดับ “คุณภาพ” และ “ประสิทธิภาพ” ของการทําฟาร์มแล้ว พื้นที่ชนบทยังต้องการเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความเป็นกลางด้านคาร์บอนในปี 2030 และปี 2060 ตามลำดับ

ทั้งนี้ เนื่องจากภาคการเกษตรถือเป็นหนึ่งในสาขาเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วมที่ใหญ่ที่สุดในการปล่อยคาร์บอนและเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด 

อีกประเด็นหนึ่งที่ควรพูดถึงก็คือ พรรคฯ และรัฐบาลจีนมองปัญหาที่ “กว้างขวาง” และ “ครอบคลุม” อย่างมาก 

จีนตระหนักดีว่า พื้นที่ชนบทยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มีรายได้ต่ำ ขาดสารอาหาร และเข้าถึงแหล่งความรู้และข้อมูลที่จำกัด 

คนในชนบทเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพอย่างจำกัด ขณะที่ชุมชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ด้านโภชนาการที่เพียงพอ และขาดโอกาสด้านการศึกษาในระบบปกติ

นอกเหนือจากความเหลื่อมล้ำทางสังคมในเชิงภูมิศาสตร์ระหว่างซีกตะวันออก-ตอนกลาง-ตะวันตกแล้ว ความเหลื่อมล้ำในเชิงพื้นที่การพัฒนาทำให้เกิด “ช่องว่างทางด้านโอกาสระหว่างเด็กในพื้นที่ชนบทและในเมือง” 

ภาพความเหลื่อมล้ำทางรายได้ยิ่งชัดเจนมากขึ้นในกรณีของชุมชนห่างไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภูเขาและทะเลทราย ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานได้

ภายใต้สโลแกน “ความพากเพียรนํามาซึ่งการเปลี่ยนแปลง” เพื่อการช่วยเหลือชุมชนยากจนในชนบทที่ขาดแคลนทรัพยากร CFRD จึงมีภารกิจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อความยั่งยืน ผ่านการปรับปรุงเงื่อนไขพื้นฐานและมาตรฐานของบริการสังคมเบื้องต้น

CFRD ในปัจจุบันได้ขยายขอบข่ายการทํางานที่มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 6 ประการ อันได้แก่ การขจัดความยากจน ความหิวโหยเป็นศูนย์ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การศึกษาที่มีคุณภาพ น้ําสะอาดและสุขอนามัย รวมทั้งงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ซึ่งนำไปสู่การดําเนินโครงการมากมาย หนึ่งในนั้นได้แก่ โครงการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งปรับปรุงโภชนาการใน 3 ส่วน อันได้แก่ การผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การจัดตั้ง “Love Kitchens” ภายในโรงเรียนในชนบท และการศึกษาเกี่ยวกับความสําคัญของโภชนาการ

ความคิดริเริ่มนี้รวมถึงอาหารและวิตามินประจําวันสําหรับเด็กในช่วงเวลาเรียน อาทิ ไข่ 1 ฟอง และนม 1 กล่อง อุปกรณ์มาตรฐานในโครงการ Love Kitchen (รักครัว) ที่ติดตั้งในโรงเรียน อาทิ เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว และพัดลมดูดอากาศ รวมถึงการฝึกอบรมด้านโภชนาการและการศึกษาเกี่ยวกับภาวะการขาดแคลนอาหาร

โครงการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการนี้ดําเนินการในราว 20 มณฑลทั่วจีน เช่น มณฑลเสฉวน ยูนนาน และหูเป่ย CFRD ยังขยายการดำเนินงานในระดับนานาชาติอีกด้วย 

อีกโครงการหนึ่งที่ผู้คนกล่าวขวัญถึงก็ได้แก่ “New Great Wall” (กำแพงเมืองจีนใหม่) ที่จัดหาทุนการศึกษาแก่นักศึกษาในระดับวิทยาลัย กระเป๋าหนังสือ หอพัก การสาธารณสุขแก่แม่และเด็ก และสินเชื่อรายย่อย รวมทั้งโครงการพัฒนาระหว่างประเทศ

ภายใต้ปรัชญาของ CFRD ในการมีส่วนร่วมในต่างประเทศที่ระบุว่า “ความรักที่ไร้พรมแดนและการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนกับผู้คน”

ทั้งนี้ CFRD ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับการจัดการกับปัญหาภาวะด้านโภชนาการในวัยเด็กในพื้นที่ชนบท 

โครงการเหล่านี้ยังถูกนำไปขยายผลในหลายประเทศ อาทิ กัมพูชา เมียนมาร์ เนปาล กานา และเอธิโอเปีย ที่มองหาความช่วยเหลือ ข้อมูลระบุว่านับแต่ปี 2015 CFRD ได้ดําเนินหลายโครงการในเอธิโอเปีย อาทิ Panda Pack (กระเป๋าหมีแพนด้า) Smiling Children (เด็กยิ้ม) ถังเก็บน้ำการทําน้ําให้บริสุทธิ์ และการฝึกอบรมการจ้างงานสตรี

โครงการเหล่านี้นำไปสู่การยอมรับและคำชื่นชมอย่างมากจากรัฐบาลท้องถิ่น ชุมชน และผู้รับผลประโยชน์ เรากำลังพูดถึงชาวเอธิโอเปียจำนวนราว 300,000 คนในทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เปราะบางที่สุด ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว 

สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้จีนพยายามและทุ่มเทให้ความช่วยเหลือผู้คนที่ด้อยโอกาสต่อไป โดย CFRD ได้ร่วมมือกับพันธมิตรผู้บริจาค ได้แก่ บริษัท เซินเจิ้นโซลาร์รันเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ได้แจกจ่ายหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์หลายพันหลอดแก่ครอบครัวในท้องถิ่นทั่วเอธิโอเปีย

CFRD ยังได้เปิดตัว “หมู่บ้านนำร่องการพัฒนาที่ยั่งยืน” แห่งแรกในเนปาล และขยายโครงการพัฒนาที่ครอบคลุมอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค เช่น โครงการก่อสร้างแหล่งน้ําสะอาด โครงการอาหารโรงเรียน โครงการกระเป๋าแพนด้า และโครงการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพการปลูกผัก ซึ่งครอบคลุมผู้รับผลประโยชน์กว่า 10,000 ราย

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ CFRD ยังได้บริจาคจักรยานจำนวน 2,024 คันให้กับโรงเรียนประถมศึกษาของกัมพูชาเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับนักเรียนที่ด้อยโอกาส

นอกจากจะแสดงถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของมิตรภาพระหว่างประชาชนจีนและกัมพูชาแล้ว การบริจาคนี้ยังจะช่วยให้นักเรียนด้อยโอกาสที่ได้รับจักรยานเหล่านี้จะสามารถเข้าถึงโรงเรียนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะสร้างโอกาสด้านการศึกษาเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

ผมเชื่อมั่นว่า พรรคฯ และรัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้ CFRD เป็นอีกกลไกหนึ่งในการสร้างประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ชนบทจีน

ภารกิจและความมุ่งมั่นของ CFRD เพื่อสังคมที่ดีกว่าในวงกว้างาจึงเป็น “ซอฟท์พาวเวอร์” อันทรงพลังของจีนที่จะเสริมสร้างการพัฒนาระบบนิเวศในชนบทของหลายพื้นที่ทั่วโลก และเป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างจีนกับนานาประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปในอนาคต ...

ภาพ: AFP