
สรุปข่าว
Gold Bullish
- ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น
- ธนาคารกลางซื้อทองคำในเงินทุนสำรองเพิ่มขึ้น
- ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
GOLD BEARISH
- ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าเดิม
- เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างชัดเจน
- การกระจายวัคซีนโควิด-19
จีดีพีของจีนไตรมาสเติบโตชะลอตัวลง
จีนเป็นประเทศที่ใช้ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.2% ซึ่งเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาขาดแคลนพลังงาน ภาวะติดขัดด้านอุปทาน ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 ที่ชะลอตัวกลับไม่ได้กระทบต่อทางลบความต้องการทองคำ เนื่องจากตลาดหุ้นจีนที่ผันผวนและปรับลดลงโดยเฉพาะในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนก.ย. กลับทำให้มีเม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้นจีนมาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟทองคำสะท้อนได้จากในเดือนก.ย.กองทุนอีทีเอฟทองคำมีการถือครองทองคำสูงถึง 72 ตัน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่เดือนมี.ค.แตะ 72.4 ตัน
การถือครองทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำจีน
Source: ETF providers, Shanghai Gold Exchange, World Gold Council
ความต้องการทองคำไตรมาส 4 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง
ค่าพรีเมี่ยมของราคาทองคำในตลาดทองคำจีนเดือนก.ย.เฉลี่ย 7.5 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.7 ดอลลาร์/ออนซ์จากเดือนส.ค. และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เป็นการช่วยตอกย้ำว่าความต้องการทองคำในจีนไตรมาส 3 ยังแข็งแกร่งมาก และคาดว่ายังมีแนวโน้มสดใสและแข็งแกร่งในไตรมาส 4 โดยยอดการผลิตทองคำในเดือนก.ย.แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็น 191 ตัน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากมีแรงซื้อทองคำในภาคเครื่องประดับคึกคักในช่วงวันหยุดยาว Golden week ของจีนในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค. โดยในเดือนก.ย.ผู้ประกอบการได้เตรียมผลิตเครื่องประดับทองคำจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการในช่วง Golden week ของจีน นอกจากนี้ผู้ผลิตจิลเวอรี่ได้ผลิตสินค้าใหม่ๆ เพื่อเตรียมแสดงสินค้าออกงานโชว์ Shenzhen Jewellery Fair ในช่วงกลางเดือนก.ย. ทำให้คาดการณ์ว่าค่าพรีเมี่ยมของราคาทองคำในไตรมาส 4 ยังสูงอยู่
ค่าพรีเมี่ยมของราคาทองคำในตลาดทองคำจีน
Source: Bloomberg, Shanghai Gold exchange, World Gold Council
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดจะปรับขึ้นต่อเนื่อง สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐและยุโรป อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐ การประชุมธนาคารกลางยุโรป การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น และทิศทางเงินบาท ซึ่งทองคำมีปัจจัยหนุนจากจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ตลาดคาดการณ์ว่าชะลอตัวลง โดยจะเติบโต 2.6% หลังจากที่ไตรมาส 2 เติบโต 6.7% จีดีพีไตรมาส 3 ของยุโรปจะเติบโต 2.1% หลังจากที่ไตรมาส 2 เติบโต 2.2% การประชุมธนาคารกลางยุโรปติดตามว่าจะส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินหรือไม่อาจจะมีผลต่อเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดว่าไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ
ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,780 ดอลลาร์ และแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,813 ดอลลาร์ และ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 28,050 บาท และ 27,750 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 28,500 บาท และ 28,700 บาท
ข้อมูล: ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
ภาพประกอบ : พีอาร์ฮั่วเซ่งเฮง,AFP
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand