
สรุปข่าว
วันนี้( 28 เม.ย.64) แคนาดาพบหญิงวัย 54 ปี ในแคว้นควิเบก เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) นับเป็นรายแรกที่เสียชีวิตในแคนาดาจากผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์จากการใช้วัคซีนต้านโควิดของ AstraZeneca
ฟรังซัวส์ เลอโกลต์ นายกรัฐมนตรีแคว้นควิเบก พูดถึงผู้เสียชีวิตว่า รู้สึกเสียใจมากที่รับรู้ว่า หญิงวัย 54 ปี ที่ร่างกายแข็งแรงเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน ส่วนโฮราซิโอ อาร์รูดา ประธานสาธารณสุขของแคว้นควิเบก กล่าวว่า ผลการตรวจที่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ หรือห้องแล็บของมหาวิทยาลัยแม็กมาสเตอร์ ในเมืองแฮมิลตัน พบแอนติบอดี ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเกล็ดเลือดในเลือดของเธอจนนำไปสู่การเสียชีวิต ขณะนี้มีประชาชนในควิเบกประมาณ 400,000 คน ได้รับวัคซีน “แว็กเซฟเรีย” ของ AstraZeneca
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอีก 3 รายที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งรวมทั้ง 1 คนที่กำลังพักฟื้นและอีก 2 คน ยังไม่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนหรือไม่
ในช่วงต้นเดือนนี้ แคนาดาพบผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันรายแรกในประชาชนที่ฉีดวัคซีน “แว็กเซฟเรีย” เป็นผู้หญิงในแคว้นควิเบกเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ มีรายงานผู้ป่วยลิ่มเลือดเชื่อมโยงกับวัคซีนจำนวนมากในหลายประเทศของสหภาพยุโรป และสำนักงานยายุโรป หรืออีเอ็มเอ (EMA) ต้องทบทวนและระงับการใช้วัคซีน AstraZeneca ชั่วคราว ก่อนจะสนับสนุนให้กลับมาใช้อีก โดยให้เหตุผลว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และยืนยันว่า ผลข้างเคียงดังกล่าว ทั้งภาวะลิ่มเลือดผิดปกติและเกล็ดเลือดต่ำ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งประเมินว่าเกิดขึ้นกับคนที่ฉีดวัคซีน 1 ใน 100,000
อีเอ็มเอ ระบุว่า ภาวะลิ่มเลือดอุดตันส่วนใหญ่จะเกิดกับประชาชนที่รับวัคซีน “แว็กเซฟเรีย” ในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 60 ปีภายใน 3 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม คณะกรรมการที่ปรึกษาการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติของแคนาดา หรือเอ็นเอซีไอ ระงับการใช้วัคซีน AstraZeneca ในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 55 ปี หลังมีรายงานพบปัญหาลิ่มเลือดในกลุ่มที่รับวัคซีนดังกล่าว แต่ก็ทบทวนคำแนะนำดังกล่าว และอนุญาตให้ใช้กับคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
- พาณิชย์สั่งห้าม ATK ขาด-ห้ามแพง ย้ำผู้ค้าต้องเติมสต๊อกทันที
- โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทยแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้น
- วัคซีนโควิด-19 ไม่ถูกถอดจากรายชื่อวัคซีนแนะนำในสหรัฐฯ
- โควิด-19 ระบาดหลายภูมิภาค! "สายพันธุ์ NB.1.8.1" แพร่กระจายเร็ว อย่าชะล่าใจ
- กรมวิทย์ฯ คาดโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก
- “หมอยง” เปิดข้อมูลโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่พบในกทม. ติดต่อง่าย แพร่กระจายเร็ว
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand
