วัคซีนโควิด 'จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน' ฉีดเข็ม 2 กระตุ้นภูมิพุ่ง 9 เท่า

วันนี้ ( 26 ส.ค. 64 )บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือเจแอนด์เจ (J&J) แถลงในวันพุธว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เข็มกระตุ้น หรือเข็มที่ 2 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีต่อต้านไวรัสโควิดได้อย่างรวดเร็ว จากข้อมูลการทดลองขั้นต้นของกลุ่มตัวอย่างเล็ก ๆ 2 กลุ่ม ทั้งนี้ เจแอนด์เจถูกกดดันอย่างหนักให้แสดงหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนเสริมกระตุ้นภูมิเข็มที่ 2 นั้นจะเพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสสูงกว่าการฉีดเข็มแรกอย่างไร ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐเตรียมเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ของวัคซีนยี่ห้ออื่นเต็มตัวในเดือนหน้านี้ ทางบริษัทเจแอนด์เจ เตรียมจะหารือข้อมูลนี้กับหน่วยงานที่กำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อเตรียมฉีดเข็มที่ 2 ต่อไป

โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ประกาศในวันพุธเกี่ยวข้องกับการทดลองในประชาชนทั้งสิ้น 17 คน พบว่า การฉีดวัคซีนเจแอนด์เจเข็มที่ 2 ห่างจากฉีดเข็มแรก 6 เดือน ระดับแอนติบอดีต่อต้านไวรัสเพิ่มขึ้น 9 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 28 วัน

รายงานของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ชี้ด้วยว่า ระดับการตอบสนองของภูมิคุ้มกันโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 18 - 55 ปี รวมทั้งกลุ่มที่อายุเกิน 65 ปีที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ระดับต่ำกว่า

อย่างไรก็ตาม การทดสอบในเฟส 1/2a นี้ใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่างน้อยกว่าการทดสอบเฟส 3 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งใช้กลุ่มตัวอย่าง 30,000 คน และผลการทดสอบยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ส่งผลการทดลองเฟส 1/2a ให้องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) รวมทั้งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) และ สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) รวมทั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุขต่าง ๆ เพื่อพิจารณาอนุมัติการใช้วัคซีนบูสเตอร์ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วอย่างน้อย 8 เดือน

หลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งสหรัฐฯ เริ่มเสนอฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ขณะที่ ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาดอย่างรวดเร็วและผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วบางส่วนก็กลับมาติดเชื้อได้อีก แต่การรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ กลับไม่มีวัคซีนของเจแอนด์เจรวมอยู่ด้วย เพราะยังไม่มีการแสดงหลักฐานว่า วัคซีนกระตุ้นภูมิของเจแอนด์เจ ซึ่งหมายถึงเข็มที่ 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันโควิด