อังกฤษเพิ่ม ‘ไนจีเรีย’เป็นประเทศคุมเข้ม สกัดโอไมครอนระบาด

วันนี้ ( 5 ธ.ค. 64 )นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษ แถลงในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า อังกฤษได้เพิ่มไนจีเรีย เข้าในบัญชีรายชื่อประเทศคุมเข้มไวรัสโควิด-19 ด้วยการกำหนดข้อบังคับสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกคนที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง 48 ชั่วโมง และเมื่อเดินทางมาถึง ก็จะต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดไว้ เป็นเวลา 10 วัน เพื่อชะลอการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” (Omicron) โดยมาตรการคุมเข้มนี้จะมีผลบังคับใช้จากเวลา 11.00 น.ของวันอังคารตามเวลาในไทย 

ส่วนนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวว่า มาตรการคุมเข้มการเดินทางมีความจำเป็นเพื่อลดการระบาดของโอไมครอน ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแพร่เชื้อและผลกระทบต่อประสิทธิภาพวัคซีนของไวรัสโอไมครอน

กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ แถลงว่า ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลตั้งแต่มีการค้นพบการระบาดของไวรัส “โอไมครอน” เป็นการ “ซื้อเวลา” เพื่อประเมินสถานการณ์และหามาตรการป้องกัน 

ในเวลาต่อมาอังกฤษแถลงว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอน 21 รายที่เชื่อมโยบกับชาวไนจีเรียที่เดินทางเข้าอังกฤษในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

นายจาวิด กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอน กำลังเพิ่มขึ้น และขณะนี้ ไนจีเรียเป็นรองแอฟริกาใต้เท่านั้นที่มีผู้มีเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสโอไมครอน พร้อมกันนั้น เขายังเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3 หรือบูสเตอร์ เช่นเดียวกับสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ หรือเอ็นเอชเอส ที่ระบุว่า การฉีดวัคซีน “เป็นด่านแรกของการป้องกัน” โคโรนาไวรัสในอังกฤษ

สำหรับสหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนเพิ่มอีก 26 รายในวันเสาร์ อยู่ในอังกฤษ 25 ราย และในสกอตแลนด์ 1 ราย รวมทั้งสิ้นเฉพาะในอังกฤษ เป็น 129 รายแล้ว, สกอตแลนด์ 30 ราย และอีกหนึ่งรายในเวลส์ ทำให้ทั่วสหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อโอไมครอน สะสม 160 รายแล้ว 

ภาพจาก :  รอยเตอร์