ภาวะโลกร้อนทำให้ 44 ประเทศทั่วโลกเผชิญ “วิกฤตอาหาร”

มีรายงานจาก FAO หรือองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติพบว่า ปัจจุบันนี้มี 44 ประเทศทั่วโลก ประสบปัญหาวิกฤตขาดแคลนอาหาร ซึ่งมาจาก สามปัจจัย คือ เรื่องการแพร่ระบาดโควิด สงครามรัสเซียยูเครน และภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับปัจจัยเรื่องภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากขณะนี้ ที่ยุโรปก็เผชิญกับอากาศร้อนจัดที่สุดในรอบหลายสิบปี อเมริกาใต้เจอกับฤดูหนาวที่มาก่อนฤดู รวมถึงทวีปเอเชียเช่น อินเดีย ปากีสถาน ที่ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง น้ำท่วมหนัก มีผู้คนและสัตว์จำนวนมากป่วยล้มตายและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย คุณภาพและปริมาณลดน้อยลง จนเกิดภาวะขาดแคลน ทาง FAO ประเมินแล้วค่ะว่า 44 ประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านอาหารอย่างชัดเจน สำหรับทวีปแอฟริกามี 33 ประเทศ ที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะทางตอนเหนือและตอนใต้ เป็นผลจากภัยแล้งและภัยธรรมชาติต่างๆ สัตว์และคนปรับตัวไม่ทัน และยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำและอาหารในหลายประเทศ ส่วนทวีปเอเชีย มี 9 ประเทศที่ถูกประเมินว่า กำลังเผชิญวิกฤตด้านอาหาร ได้แก่ที่ อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ เกาหลีเหนือ อิรัก เลบานอน เมียนมา ปากีสถาน ซีเรียและเยเมน แม้ไทยจะไม่อยู่ลิสต์ประเทศแต่อย่าวางใจ เพราะวิกฤตเริ่มเข้าใกล้ประเทศเพื่อนบ้านเราแล้ว ส่วนประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ มี 2 ประเทศที่ถูกประเมินคือเฮติและเวเนซูเอลา สำหรับที่เฮติ เผชิญกับภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ส่วนเวเนซูเอลามีปัญหาเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร สำหรับวิกฤตด้านอาหารนั้น เป็นเรื่องน่ากังวลเพราะจะทำให้หลายประเทศยากจนลง ประชากรขาดแคนอาหาร ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนในอนาคต ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาใส่ใจและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อที่จะได้ชะลอและลดความรุนแรงของวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต