
สรุปข่าว
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO เผยว่าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเป็น 1.15 องศาเซลเซียสแล้ว สำหรับ 8 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2022 โลกร้อนสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นผลมาจากความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและความร้อนสะสม ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงตามมาในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยสรุปแล้ว ปี 2022 ที่ผ่านมา โลกของเราเจอกับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากมาย เช่น - ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ - อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ตอนนี้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.15 องศาเซลเซียส - ธารน้ำแข็งละลายหลายแห่ง ทำให้ความหนาแน่นของน้ำแข็งหายไป และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่มีหิมะเลยในฤดูร้อนบนเทือกเขาในสวิตเซอร์แลนด์ - ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 3.4 มม. ต่อปีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา - สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น ในแอฟริกาตะวันออก ภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 40 ปี - ฝนทำลายสถิติในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในปากีสถาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,700 รายและประชาชนได้รับผลกระทบ 33 ล้านคน - พื้นที่ขนาดใหญ่ของยุโรปอบอ้าวด้วยความร้อนจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สหราชอาณาจักรสร้างสถิติใหม่ระดับประเทศเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 40°C เป็นครั้งแรก นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีผลกระทบอีกมากมายที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา นักวิทยาศาสตร์จึงออกมาเตือน ยิ่งภาวะโลกร้อนมากเท่าไร ผลกระทบก็จะยิ่งแย่ลงเท่านั้น
- ไนจีเรีย น้ำท่วมฉับพลัน เสียชีวิต 151 คน
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- น้ำเหนือหลากลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา กรมชลฯ แจ้งเตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวังด่วน
- สทนช.เตือน “ลำปาง” 7 อำเภอพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระวังน้ำป่าไหลหลาก
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ พังถล่มทับหมู่บ้านในสวิตฯ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand