“เอลนีโญ” เพิ่มวิกฤตทำโลกเสี่ยงหายนะ ร้อนทะลุเกณฑ์ใน 5 ปี

วันนี้ ( 18 พ.ค. 66 )ภาพจากดาวเทียม อุณหภูมิของโลก ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาบ้านประเทศไทย พื้นที่สีส้มแดงคือพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส เช่น อินเดีย และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 40 องศาาเซลเซียสในบางเมือง

ขณะที่หลายประเทศมีสีส้มอ่อนที่หมายถึงอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าโลกที่ร้อนจัดของเรามีแนวโน้มที่จะทำลายขีดจำกัดอุณหภูมิที่สำคัญเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นักวิจัยขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กล่าวว่า ขณะนี้มีโอกาสร้อยละ 66 ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะทะลุเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียสภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือ ปี พ.ศ.2570 เนื่องจากการปล่อยมลพิษที่ไม่ลดลง และเอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้

หากโลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นหายนะสำหรับโลก หมายความว่า ความแปรปรวนของโลกจะรุนแรงขึ้น ทั้งคลื่นความร้อน พายุ และไฟป่า ซึ่งอุณหภูมิโลกที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1.28 องศาเซลเซียส เมื่อปี พ.ศ.2559

อุตุนิยมวิทยาโลก บอกว่า เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ จะกระทบต่ออุณหภูมิของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ความร้อนพื้นผิวจะสูงขึ้น กระแสลมจากมหาสมุทรแปซิฟิกจะนำพาอากาศร้อนและแห้งไปยังแถบตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้น ก็คือ ประเทศในแถบอเมริกา และแอฟริกา คลื่นความร้อนและความแห้งแล้งจะทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างยาวนานมากขึ้น อาจจะนานเกิน 12 เดือน 

เอลนีโญจะมีส่วนอย่างมากในการทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นในปีหน้า แต่ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะรุนแรงมากเพียงใด

ภาพจาก :  AFP