
สรุปข่าว
สำหรับ เอลนีโญ (El Niño) คือ ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลก ในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกอุ่นผิดปกติ ทำให้ลมค้าที่เป็นลมประจำปีหรือลมภูมิภาคที่พัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกไปตะวันตกมีกำลังอ่อนกว่าปกติ น้ำทะเลที่อุ่นจึงถูกพัดไปทางชายฝั่งตะวันตกมหาสมุทรแปซิฟิกน้อยลง ส่งผลให้ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รวมถึงฝั่งเอเชียบ้านเราเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น ขณะเดียวกันลมค้าก็ไหลย้อนกลับพัดเข้าแทนที่กระแสน้ำเย็น ที่อยูทางชายฝั่งตะวันออกของมหาสมทุรแปซิฟิก ทวีปอเมริกาใต้จึงเกิดฝนตกชุก ตรงข้ามกับ ลานีญา (La Niña) คือ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลก ในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกเย็นลง ลมสินค้าจะแรงผิดปกติ น้ำทะเลที่อุ่นจึงถูกพัดไปด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำของฝั่งตะวันตกที่สูงกว่าฝั่งตะวันออกอยู่แล้วยิ่งสูงกว่าเดิม ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียและออสเตรเลียจะเกิดฝนตกชุก ในขณะที่ทวีปอเมริกาใต้จะประสบปัญหาความแห้งแล้งแทน สำหรับ “เอลนีโญ” นั้น ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อประเทศไทย ที่จะทำให้ฝนน้อย ภัยแล้งรุนแรงเท่านั้น แต่มีความกังวลว่า อาจเป็นปัจจัยทำให้ไฟป่าในหลายพื้นที่รุนแรง จนเกิดหมอกควันมลพิษข้ามพรมแดนในพื้นที่ของบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และภาคใต้ของไทยไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ก็จะเห็นว่า เอลนีโญ ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อปริมาณน้ำฝน และเรื่องของภัยแล้งเท่านั้น ยังส่งผลต่ออุณหภูมิ ความเสี่ยงของการเกิดไฟป่า คุณภาพอากาศ เป็นวัฏจักรต่อเนื่อง
- โลกร้อนยิ่งแห้งแล้ง “อังกฤษ” สร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ ในรอบ 30 ปี แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ
- “ภัยแล้งหิมะ” ความเสี่ยงใหม่ในยุคโลกเดือด
- สัตว์หนีภัยโลกร้อนไม่ทัน อาจเกิดเหตุการณ์ตายหมู่ สัญญาณเตือนที่โลกไม่ควรมองข้าม
- ดร.วิษณุชี้ เอลนีโญอาจกลับมาในฤดูร้อน 69 เตือนระวังภัยร้อน-ภัยแล้ง
- "อังกฤษ" แล้งผิดฤดู อ่างเก็บน้ำวิกฤตแห้งสุดรอบ 69 ปี แทบไม่เหลือน้ำใช้อุปโภค-บริโภค
- มท.-อว. หารือน้ำแล้งน้ำท่วม หลังคาดปีนี้ฝนเกินค่าเฉลี่ย
- “ภัยแล้งหิมะ” ความเสี่ยงใหม่ยุคโลกเดือด เสี่ยงกระทบแหล่งน้ำทั่วโลก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand