
สรุปข่าว
ศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ หรือไอซิมอด ซึ่งตั้งอยู่ในเนปาล ระบุว่า ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาฮินดูกูช และเทือกเขาหิมาลัย ละลายเร็วขึ้นร้อยละ 65 ระหว่างปี 2554-2564 เมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษก่อนหน้า และจากแนวโน้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในตอนนี้ ธารน้ำแข็งดังกล่าวอาจหายไปมากถึง ร้อยละ 80 ของปริมาณในปัจจุบัน ภายในสิ้นศตวรรษนี้ด้วย พร้อมได้ออกคำเตือนว่า อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และหิมะถล่มในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังไม่ลดลงมากพอ รายงานของไอซิมอดคาดการณ์ว่า ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยจะละลายหายไป ร้อยละ 33-50 ของปริมาณเดิมภายในปี 2643 หรืออีกประมาณ 77 ปีข้างหน้า และหากอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 3 องศาเซลเซียส ธารน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาหิมาลัยจะละลายมากถึงร้อยละ 75 และหากอุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศาเซลเซียสจะธารน้ำแข็งจะลาลายเพิ่มเป็นร้อยละ 80 นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ศตวรรษที่ 21ธารน้ำแข็งต่างๆบนเทือกเขาหิมาลัยได้ละลายเร็วขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า จนทำให้เกิดการสูญเสียน้ำแข็งประมาณ 1 ฟุตครึ่งในแต่ละปี การละลายอย่างรวดเร็วของของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างเช่น ธารน้ำแข็งถล่ม เกิดน้ำทะลัก แต่ยังส่งผลกระทบต่อการบริโภค และการใช้น้ำของประชาชนหลายร้อยล้านคนอีกด้วย
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
- เมื่อมหาสมุทรกำลังมืดลง สัญญาณเตือนวิกฤตใหม่ของโลก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand