
สรุปข่าว
การที่อุณหภูมิบริเวณขั้วโลกเหนือสูงขึ้นเรื่อย ๆ น้ำแข็งที่ปกคลุมก็ลดน้อยลง กระทบต่อการดำรงชีวิตของหมีขั้วโลกเพราะพวกมันไม่สามารถลงทะเลไปล่าเหยื่อได้ ต้องหาอาหารบนบกเพื่อประทังชีวิตแทน ปกติแล้วหมีขั้วโลก หรือ หมีขาว มักล่าแมวน้ำวงแหวน (ringed seal) เป็นอาหาร โดยพวกมันจะจับแมวน้ำเหล่านี้บนแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่ห่างจากชายฝั่ง แต่เมื่อแผ่นน้ำแข็งหายไป หมีขาวจำนวนมากจึงต้องหาอาหารบนบก เช่น ซากสัตว์, ไข่ของนกทะเล, ผลเบอร์รี และหญ้าแทน ตามรายงานพบว่าน้ำหนักตัวของหมีขั้วโลกส่วนใหญ่ลดลงอย่างมาก องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN ประเมินว่ามีความเป็นไปได้มากที่จำนวนหมีขั้วโลกทั่วโลกจะลดลงมากกว่า 30% ภายในปี 2050 หรืออาจจะลดลงมากกว่านั้น โดยปัจจุบันพบว่า มีหมีขั้วโลกทั่วโลกประมาณ 31,000 ตัว 60-80% ของหมีขั้วโลกอยู่ที่แคนาดา ยกตัวอย่างประชากรหมีขั้วโลกในประเทศต่างๆ ที่ IUCN ประเมินไว้ว่า หมีขั้วโลกในแคนาดาอยู่ในเกณฑ์ น่ากังวล ส่วนที่กรีนแลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ อยู่ในเกณฑ์มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ส่วนที่สหรัฐฯ อยู่ในเกณฑ์ที่ถูกคุกคาม โดยพบว่าไม่มีพื้นที่ไหนเลยที่ประชากรหมีขั้วโลกจะไม่อยู่ในภาวะที่พบเห็นอยู่ทั่วไปและไม่ถูกคุกคาม จากข้อมูลต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศส่งผลกระทบต่อ หมีขั้วโลก เป็นอย่างมาก และในอนาคตหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นไปได้ที่หมีขั้วโลกอาจจะสูญพันธุ์และหายไปได้ในอนาคต
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
- เมื่อมหาสมุทรกำลังมืดลง สัญญาณเตือนวิกฤตใหม่ของโลก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand