“ภูเขาไฟฟูจิ” เริ่มมีหิมะปกคลุมแล้ว มาช้าที่สุดในรอบ 130 ปี

ภูเขาไฟฟูจิในญี่ปุ่นเริ่มมีหิมะปกคลุมแล้ว  เป็นครั้งแรกของปี แต่การมาถึงของฤดูหนาวในปีนี้กลับล่าช้ากว่าปกติถึงหนึ่งเดือน ทำให้ปี 2567 กลายเป็นปีที่มีการบันทึกว่าหิมะตกบนฟูจิซังช้าที่สุดในรอบ 130 ปี  โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาในจังหวัดชิซุโอกะแจ้งว่า สามารถมองเห็นหิมะแรกจากทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขาไฟในช่วงเช้าวานนี้ 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นของเมืองโคฟุ ซึ่งมีหน้าที่ประกาศการเกิดหิมะอย่างเป็นทางการกลับยังไม่ยืนยันข่าวดังกล่าว เนื่องจากมีเมฆหนาทำให้มองไม่เห็นยอดภูเขา 

ทั้งนี้โดย ปกติแล้วภูเขาไฟฟูจิ จะมีหิมะตกครั้งแรกบนยอดภูเขาที่สูง 3,776 เมตร โดยอุณหภูมิที่ยอดเขาจะเฉลี่ยอยู่ที่ -2 องศาเซลเซียส   แต่ในปีนี้ อุณหภูมิบนยอดเขากลับสูงขึ้นเป็น 1.6 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มบันทึกเมื่อปี 2475 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากฤดูร้อนที่ร้อนจัดและฤดูใบไม้ร่วงที่อุ่นผิดปกติก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ก่อนหน้านี้ยอดเขาของภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ยังคงไม่มีหิมะตกลงมา แม้จะถึงปลายเดือนตุลาคมซึ่งปกติ ภูเขาไฟฟูจิจะมีหิมะตกลงมาภายในช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่สภาพอากาศที่อบอุ่นผิดปกติในปีนี้ ทำให้ยังไม่มีรายงานหิมะตกแต่อย่างใด และการเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนโดยที่ยังไม่มีหิมะปกคลุมยอดเขา ถือเป็นการไม่มีหิมะตกบนภูเขาไปฟูจิที่ยาวนานที่สุดในรอบปี นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 1894

ยูทากะ คัตสึตะ นักพยากรณ์จากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นโคฟุ บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า สถิติก่อนหน้านี้ที่หิมะตกบนยอดเขาของภูเขาไฟฟูจิช้าที่สุด คือวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเกิดขึ้นสองครั้งได้แก่ในปี 1955 และ 2016 และเขาก็ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจมีส่วนส่งผลต่อความล่าช้าในการก่อตัวของหิมะบนยอดเขา

ภาพจาก: AFP