
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่า หลังเปิดรับฟังความเห็นจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับการควบคุมกำเนิดช้างป่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ซึ่งมีแนวทางจะดำเนินการฉัดวัคซีนคุมกำเนิดให้กับช้างป่า ว่า ภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาช้างป่า จากการรับฟังความเห็นมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ล่าสุดอธิบดีกรมอุทยานฯ ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างป่า จำเป็นต้องทำ โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาข้อมูลว่า จะต้องฉีดอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ และช้างป่ากลุ่มไหนจะได้รับการฉีดก่อน
สรุปข่าว
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่า หลังเปิดรับฟังความเห็นจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับการควบคุมกำเนิดช้างป่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ซึ่งมีแนวทางจะดำเนินการฉัดวัคซีนคุมกำเนิดให้กับช้างป่า ว่า ภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาช้างป่า จากการรับฟังความเห็นมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ล่าสุดอธิบดีกรมอุทยานฯ ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างป่า จำเป็นต้องทำ โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาข้อมูลว่า จะต้องฉีดอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ และช้างป่ากลุ่มไหนจะได้รับการฉีดก่อน
เบื้องต้นจะฉีดให้กับช้างป่าที่ออกมาอยู่นอกป่ารอยต่อ 5 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ปราจีนบุรี รวมไปถึงสระแก้วด้วย ประมาณ 5-6 กลุ่ม ส่วนวัคซีนตอนนี้มีอยู่ 18 โดส หากมีขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจนจะนำข้อมูลเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาช้างป่า และหากเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการติดตามผลเพื่อส่งให้คณะกรรมาธิการฯอีกรอบ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาจัดซื้อวัคซีนเพิ่ม
นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำด้วยว่า แนวทางฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างป่า จำเป็นต้องทำ เพื่อลดอัตราการเพิ่มขึ้นของช้างป่า เพราะหากไม่เริ่มอนาคต ช้างป่าจะยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมาการแก้ปัญหาทำได้เพียงผลักดันช้าง และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจะฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างป่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูจุดอ่อนและข้อบกพร่องให้รอบครอบ โดยเฉพาะก่อนจะเริ่มฉีดต้องตรวจสุขภาพของช้างก่อน และการจะตรวจสุขภาพช้างที่อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ทำได้ยาก
- “เสือดำ” โผล่โชว์ตัว ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ามรดกโลก
- สุดยื้อชีวิต! ช้างป่ากุยบุรีล้มแล้ว ทนเจ็บขาไม่ไหว พบรอยกระสุนหลายจุดทั่วตัว
- ช่วยช้างป่าเจ็บขา ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เดินแทบไม่ไหว หวั่นติดเชื้อลุกลาม
- เอ็นดู “เนื้อทราย” หนุ่มน้อยขี้เล่น แห่งทุ่งกะมัง
- 23 มี.ค. "วันหมีโลก" ร่วมอนุรักษ์ก่อนสูญพันธุ์
- ปลา “บล็อบฟิช” สัตว์น่าเกลียดที่สุดในโลก สู่ปลาแห่งปีของนิวซีแลนด์
- บทเรียนอินฟลูฯ สาวอเมริกันฉกลูก “วอมแบต” จนแม่วิ่งตาม กลายเป็นดราม่าระดับโลก
ที่มาข้อมูล : ประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ที่มารูปภาพ : อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
TNNThailand