
วันอาทิตย์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ในทุกปีตรงกับวันอนุรักษ์วาฬโลก (World Whale Day) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1980 บนเกาะเมาอิ ในหมู่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงชีวิตของวาฬในมหาสมุทรตามธรรมชาติ
สำหรับ วาฬ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในท้องทะเล มีรูปร่างเพรียวยาว มีครีบและมีหางเหมือนปลา โดยวาฬจัดอยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered species) แถมวาฬ ยังเป็นยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 33 ตัน เทียบเท่ากับต้นไม้จำนวนถึง 1,000 ต้น ซึ่งปกติวาฬจะมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 60 ปี ทำให้ในช่วงชีวิตหนึ่งของวาฬสามารถสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 33 ตัน ในขณะที่ต้นไม้ต้นหนึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้แค่ 0.022 ตันต่อปีเท่านั้น
สรุปข่าว
วันอาทิตย์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์เป็น "วันอนุรักษ์วาฬโลก" ซึ่งในปีนี้ตรงกับ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์วาฬ วาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มปริมาณแพลงก์ตอนพืชในทะเล การหยุดล่าวาฬและอนุรักษ์พวกมันจะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและลดปัญหาภาวะโลกร้อน
วันอาทิตย์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ในทุกปีตรงกับวันอนุรักษ์วาฬโลก (World Whale Day) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1980 บนเกาะเมาอิ ในหมู่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงชีวิตของวาฬในมหาสมุทรตามธรรมชาติ
สำหรับ วาฬ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในท้องทะเล มีรูปร่างเพรียวยาว มีครีบและมีหางเหมือนปลา โดยวาฬจัดอยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered species) แถมวาฬ ยังเป็นยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 33 ตัน เทียบเท่ากับต้นไม้จำนวนถึง 1,000 ต้น ซึ่งปกติวาฬจะมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 60 ปี ทำให้ในช่วงชีวิตหนึ่งของวาฬสามารถสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 33 ตัน ในขณะที่ต้นไม้ต้นหนึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้แค่ 0.022 ตันต่อปีเท่านั้น
นอกจากนี้วาฬยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มปริมาณแพลงก์ตอนพืช เพราะโดยปกติแล้ววาฬขนาดใหญ่จะดำน้ำลึกเพื่อหาอาหาร และจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อถ่ายของเสียออกจากร่างกาย เราเรียกพฤติกรรมที่เรียกว่า ‘Whale pump’ ซึ่งของเสียเหล่านี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนพืชทั้งธาตุเหล็กและไนโตรเจน ทำให้แพลงก์ตอนพืชเจริญเติบโตได้ดี
ส่วนการล่าวาฬ หรือรบกวนการดำรงชีวิตของวาฬ จะส่งผลเสียต่อระบบนิเวศท้องทะเลและมหาสมุทรอย่างมหาศาล หากเราหยุดล่าและช่วยกันอนุรักษ์วาฬให้กลับมามีจำนวนมากขึ้น ก็จะทำให้ท้องทะเลเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ และมีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายเหมือนกับเมื่อก่อน และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอีกด้วย
- โลกร้อนบีบบังคับ “ปลาการ์ตูน” ต้องหดตัวเล็กลง วิธีเอาตัวรอดในวันที่ทะเลเดือด
- มหันตภัยเงียบใต้ทะเล “สาหร่ายพิษ” ภัยร้าย ทำสัตว์น้ำตายกว่า 200 สายพันธุ์
- อะไรอยู่ในท้องเต่าทะเล? เปิดสาเหตุอันดับ 1 ขยะ-อวนคุกคามเต่าทะเลมากสุด
- ฤดูวางไข่ของเต่าทะเลได้เริ่มต้นขึ้นตามชายฝั่งหลายแห่งของเวเนซุเอลา
- เปิดภาพ “วาฬบรูด้า” ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
- พบ "ซากพะยูน" เกยตื้นตัวที่ 9 ของปี ขาดอาหารจนป่วย แถมถูกคนใจร้ายตัดเขี้ยว
- "โลมาอิรวดี" เหลือ 14 ตัวสุดท้าย ครม.อนุมัติงบ 402 ล้านอนุรักษ์ด่วน
ที่มาข้อมูล : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ที่มารูปภาพ : Canva
TNNThailand