“อาฟเตอร์ช็อก” คืออะไร? รู้จักแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว เกิดขึ้นแล้ว 200 กว่าครั้ง

“อาฟเตอร์ช็อก” คืออะไร? รู้จักแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว เกิดขึ้นแล้ว 200 กว่าครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 200 ครั้งในพื้นที่ประเทศเมียนมา โดยส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก และไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

 

สำหรับ อาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) หรือ "แผ่นดินไหวตาม" ตามพจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ของราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง แผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลังจากแผ่นดินไหวหลัก อาจเกิดขึ้นทันทีในไม่กี่ชั่วโมง หรืออาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือน โดยขึ้นอยู่กับขนาดของแผ่นดินไหวหลัก จุดศูนย์กลาง และลักษณะของรอยเลื่อน


เมื่อแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้น เปลือกโลกและหินใต้ผิวโลกบริเวณโดยรอบจะเกิดการเคลื่อนตัว และเมื่อแผ่นดินไหวสิ้นสุดลง เปลือกโลกจะพยายามปรับตัวกลับสู่สมดุล ส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระยะ จนกว่าความเครียดของเปลือกโลกจะคลี่คลาย

สรุปข่าว

ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 200 ครั้งในเมียนมา โดยส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก กรมอุตุนิยมวิทยายืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นเป็นปกติหลังแผ่นดินไหวหลัก เกิดขึ้นจากการปรับตัวของเปลือกโลก

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 200 ครั้งในพื้นที่ประเทศเมียนมา โดยส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก และไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

 

สำหรับ อาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) หรือ "แผ่นดินไหวตาม" ตามพจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ของราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง แผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลังจากแผ่นดินไหวหลัก อาจเกิดขึ้นทันทีในไม่กี่ชั่วโมง หรืออาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือน โดยขึ้นอยู่กับขนาดของแผ่นดินไหวหลัก จุดศูนย์กลาง และลักษณะของรอยเลื่อน


เมื่อแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้น เปลือกโลกและหินใต้ผิวโลกบริเวณโดยรอบจะเกิดการเคลื่อนตัว และเมื่อแผ่นดินไหวสิ้นสุดลง เปลือกโลกจะพยายามปรับตัวกลับสู่สมดุล ส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระยะ จนกว่าความเครียดของเปลือกโลกจะคลี่คลาย

ตาม "กฎของกูเตนเบิร์ก-ริกเตอร์" (Gutenberg–Richter law) หากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 จำนวน 1 ครั้ง จะมีอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 ประมาณ 10 ครั้ง ขนาด 4.0 ประมาณ 100 ครั้ง ขนาด 3.0 ประมาณ 1,000 ครั้ง และต่ำกว่า 3.0 กว่า 10,000 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับรู้ได้


ระดับของแผ่นดินไหวสามารถแบ่งได้ดังนี้:

  • 1.0 - 2.9 : สั่นไหวเล็กน้อย ผู้คนบางส่วนอาจรู้สึกเวียนศีรษะ
  • 3.0 - 3.9 : ผู้ที่อยู่ในอาคารอาจรู้สึกเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน
  • 4.0 - 4.9 : การสั่นไหวปานกลาง วัตถุแขวนอาจแกว่งไกว
  • 5.0 - 5.9 : สั่นไหวรุนแรง เครื่องเรือนและวัตถุเริ่มเคลื่อนที่
  • 6.0 - 6.9 : อาคารเริ่มเสียหาย พังทลายบางส่วน
  • 7.0 ขึ้นไป : สั่นไหวรุนแรง อาคารเสียหายหนัก แผ่นดินแยก


การรับมือกับอาฟเตอร์ช็อกมีดังนี้ หากอยู่ในอาคาร ควรสำรวจทางหนีภัย หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ และหาที่กำบังที่มั่นคง เช่น ใต้โต๊ะ แต่หากอยู่นอกอาคาร ควรอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า ต้นไม้ และสิ่งของที่อาจหล่นลงมา รวมถึงควรจัดเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน พร้อมไฟฉาย วิทยุ แบตสำรอง น้ำดื่ม อาหารแห้ง ยา และเอกสารสำคัญ และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน


แม้ว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่กรมอุตุนิยมวิทยายืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Reuters