
การอ้างว่า บริษัท Colossal Bioscience สามารถคืนชีพ "ไดร์วูลฟ์" (Dire Wolf) สัตว์นักล่าขนาดใหญ่ที่สูญพันธุ์ไปจากโลกกว่า 12,500 ปี กลายเป็นประเด็นฮือฮาในวงการวิทยาศาสตร์โลก หลังมีรายงานว่า ปัจจุบันมี "ลูกหมาป่าคืนชีพ" แล้วถึง 3 ตัว ที่เกิดจากเทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรมและโคลนนิงช่วงปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ศ. โครีย์ แบรดชอว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยไฟล์นเดอร์ ประเทศออสเตรเลีย ตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องนี้อาจเกินจริงไปมาก เนื่องจาก "เป็นไปไม่ได้" ที่จะฟื้นฟูพันธุกรรมของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปนานขนาดนั้นได้อย่างสมบูรณ์ เพราะ DNA ที่หลงเหลือจากตัวอย่างฟอสซิลนั้นเสื่อมสภาพอย่างรุนแรงจนยากต่อการใช้งานในเชิงพันธุวิศวกรรม
“สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่ ‘ไดร์วูลฟ์’ จริง ๆ แต่เป็นเพียงหมาป่าสีเทาทั่วไปที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมให้ดูคล้ายไดร์วูลฟ์เท่านั้น” แบรดชอว์กล่าว พร้อมระบุว่า บริษัท Colossal ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพียงพอ เช่น ชุดจีโนมเปรียบเทียบ การลำดับ DNA หรือผลการทดลองแบบ peer-reviewed ที่รองรับคำกล่าวอ้างนี้
สรุปข่าว
การอ้างว่าโลกได้เห็น “ไดร์วูลฟ์” กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลังสูญพันธุ์ไปกว่า 12,500 ปี จุดประกายความตื่นเต้นและข้อกังขาไปพร้อมกันบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Colossal Bioscience ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่จากโครงการ “คืนชีพแมมมอธ” ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้มีหมาป่าตัวใหม่ 3 ตัว ที่ใช้เทคนิค CRISPR ตัดต่อพันธุกรรม ให้คล้ายกับหมาป่ายุคน้ำแข็งอย่างไดร์วูลฟ์ โดยทั้งสามเกิดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเติบโตแข็งแรงดี แต่เรื่องนี้ก็ยังสร้างข้อกังขาให้กับบรรดานักวิทยาศาสตร์ว่าตกแล้วมันฟื้นคืนชีพจริงหรือไม่?