
นายแสงสุรีย์ ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากที่อุทยานฯ ได้มีการประกาศปิดพื้นที่ห้ามทำกิจกรรมดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกเป็นการชั่วคราวในจุดดำน้ำ 9 แห่งภายใต้ความรับผิดชอบ เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากภาวะปะการังฟอกขาวตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการสำรวจและประเมินสภาพแนวปะการัง พบว่าแนวปะการังในหลายจุดมีการฟื้นตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวต่อเนื่องในทิศทางที่น่าพอใจ
จากผลการสำรวจดังกล่าว อุทยานฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีมติเห็นควรให้กลับมาเปิดพื้นที่ให้สามารถทำกิจกรรมดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกได้อีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กลับมาสัมผัสความงดงามของระบบนิเวศทางทะเลที่ฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม
พื้นที่ที่สามารถกลับมาทำกิจกรรมดำน้ำได้ ได้แก่ เกาะไก่ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก เกาะปอดะด้านทิศเหนือ อ่าวปูหยา เกาะแดง อ่าวไร่เล เกาะรังนก เกาะยาวาซัม อ่าวโล๊ะบาเกา ถ้ำไวกิ้ง และหน้าอ่าวปิเละ โดยจะยังคงปิดพื้นที่เกาะไก่ด้านทิศตะวันตกและอ่าวค้างคาวต่อไป เพื่อให้ระบบนิเวศฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์
สรุปข่าว
นายแสงสุรีย์ ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากที่อุทยานฯ ได้มีการประกาศปิดพื้นที่ห้ามทำกิจกรรมดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกเป็นการชั่วคราวในจุดดำน้ำ 9 แห่งภายใต้ความรับผิดชอบ เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากภาวะปะการังฟอกขาวตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการสำรวจและประเมินสภาพแนวปะการัง พบว่าแนวปะการังในหลายจุดมีการฟื้นตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวต่อเนื่องในทิศทางที่น่าพอใจ
จากผลการสำรวจดังกล่าว อุทยานฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีมติเห็นควรให้กลับมาเปิดพื้นที่ให้สามารถทำกิจกรรมดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกได้อีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กลับมาสัมผัสความงดงามของระบบนิเวศทางทะเลที่ฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม
พื้นที่ที่สามารถกลับมาทำกิจกรรมดำน้ำได้ ได้แก่ เกาะไก่ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก เกาะปอดะด้านทิศเหนือ อ่าวปูหยา เกาะแดง อ่าวไร่เล เกาะรังนก เกาะยาวาซัม อ่าวโล๊ะบาเกา ถ้ำไวกิ้ง และหน้าอ่าวปิเละ โดยจะยังคงปิดพื้นที่เกาะไก่ด้านทิศตะวันตกและอ่าวค้างคาวต่อไป เพื่อให้ระบบนิเวศฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์
นายแสงสุรีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดพื้นที่ในครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่นักท่องเที่ยวจะได้กลับมาเรียนรู้และชื่นชมความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล แต่ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และมัคคุเทศก์ ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด โดยขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การทิ้งขยะหรือเศษอาหารลงทะเล การทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง รวมถึงการเหยียบ จับ หรือรบกวนปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทุกชนิด
ทั้งนี้หากพบว่ามีการกระทำความผิดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จะมีโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ต่อไปในระยะยาว
การตัดสินใจเปิดกิจกรรมดำน้ำในครั้งนี้นับเป็นสัญญาณเชิงบวกของระบบนิเวศทางทะเลในหมู่เกาะพีพี ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวของธรรมชาติ เมื่อได้รับโอกาสและระยะเวลาที่เหมาะสม อันเป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และเป็นแบบอย่างของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบที่ควรได้รับการส่งเสริมต่อไป
- นายกฯ สั่ง5 มาตรการ ลุยท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ เที่ยวได้ทั้งปีไม่มีโลว์ซีซั่น
- เที่ยวไทยคนละครึ่ง! เตรียมชงเข้าครม. เร็วๆนี้ คาดเริ่มใช้ 1 ก.ค.
- ชวนเที่ยวใต้หน้าฝน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เชื่อมโยงทั่วประเทศ
- รัฐบาลย้ำประเทศไทยเป็นจุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดปี
- จุดพลุ 12 แคมเปญท่องเที่ยวฤดูฝน ชวนท่องเที่ยวไทยตลอดปีไม่มีโลว์ซีซั่น
- "สรวงศ์" ย้ำท่องเที่ยวไทยสดใส 5 เดือนแรกปี 68 รายได้รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
- ท่องเที่ยวไทย 4 เดือนแรก ต่างชาติมาแล้ว 12.4 ล้านคน รายได้กว่า 5.9 แสนล้าน
