
ภูมิภาคภูเขาของอินเดียและปากีสถานกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ “เมฆระเบิด” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อฝนปริมาณมากตกในช่วงเวลาสั้น ๆ บนพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดน้ำป่า ดินถล่ม และโคลนถล่ม เหตุการณ์นี้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคน เช่น ในเขตบูเนอร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน มีผู้เสียชีวิตถึง 300 คน ส่วนรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดียก็ประสบฝนตกหนักและน้ำป่าซัดหมู่บ้านดาราลี
เมฆระเบิดเกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ อากาศอบอุ่นชื้น ความชื้นสูง ความกดอากาศต่ำ และการก่อตัวของเมฆชั้นล่าง ภูมิภาคอินเดียและปากีสถานเหมาะสมกับสภาพเหล่านี้เนื่องจากมีภูเขา มรสุม และอากาศชื้น พื้นที่เทือกเขาหิมาลัย คาราโครัม และฮินดูคุช เป็นภูเขาที่สูงและมีชื่อเสียง ซึ่งยิ่งทำให้ฝนตกหนักแบบฉับพลันเกิดขึ้นบ่อย
สรุปข่าว
อินเดียและปากีสถานเผชิญปรากฏการณ์ “เมฆระเบิด” บ่อยขึ้น ทำให้เกิดน้ำป่า ดินถล่ม และโคลนถล่ม คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคน สภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้อากาศกักเก็บความชื้นมากขึ้น เพิ่มความถี่และความรุนแรงของเมฆระเบิด น้ำท่วมฉับพลันและภัยแล้งจึงเกิดขึ้นสลับกัน
ภูมิภาคภูเขาของอินเดียและปากีสถานกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ “เมฆระเบิด” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อฝนปริมาณมากตกในช่วงเวลาสั้น ๆ บนพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดน้ำป่า ดินถล่ม และโคลนถล่ม เหตุการณ์นี้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคน เช่น ในเขตบูเนอร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน มีผู้เสียชีวิตถึง 300 คน ส่วนรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดียก็ประสบฝนตกหนักและน้ำป่าซัดหมู่บ้านดาราลี
เมฆระเบิดเกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ อากาศอบอุ่นชื้น ความชื้นสูง ความกดอากาศต่ำ และการก่อตัวของเมฆชั้นล่าง ภูมิภาคอินเดียและปากีสถานเหมาะสมกับสภาพเหล่านี้เนื่องจากมีภูเขา มรสุม และอากาศชื้น พื้นที่เทือกเขาหิมาลัย คาราโครัม และฮินดูคุช เป็นภูเขาที่สูงและมีชื่อเสียง ซึ่งยิ่งทำให้ฝนตกหนักแบบฉับพลันเกิดขึ้นบ่อย
จำนวนเหตุการณ์เมฆระเบิดในสองประเทศนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้อากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ฝนมรสุมซึ่งปกติจะมีสองฤดูกาลในเอเชียใต้ กลับเกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ ฝนที่กักเก็บความชื้นจากทะเลอาระเบียนและมหาสมุทรอินเดียมักถูกปล่อยออกมาในคราวเดียว ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและช่วงแล้งสลับกัน
การคาดการณ์เมฆระเบิดทำได้ยากเนื่องจากความซับซ้อนและความฉับพลันของปรากฏการณ์ อย่างไรก็ตาม การป้องกันเบื้องต้นเป็นไปได้ เช่น หลีกเลี่ยงการสร้างบ้านริมแม่น้ำหรือในหุบเขา เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ทำความสะอาดและขยายตลิ่งและท่อระบายน้ำ รวมถึงส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อลดน้ำท่วม
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวเร่งความถี่ของเมฆระเบิด ทุกการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้นราว 7 % การอุ่นตัวของมหาสมุทรอินเดียและทะเลอาระเบียนทำให้ความชื้นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น การละลายของธารน้ำแข็งและหิมะยังทำให้รูปแบบฝนเปลี่ยนแปลงและเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น การทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น การตัดไม้ทำลายป่าและการสูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้ดินไม่สามารถดูดซับน้ำได้ ส่งผลให้น้ำป่ารุนแรงมากขึ้น
ในพื้นที่ตอนเหนือของปากีสถาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยหลักของความเสียหาย อุณหภูมิที่สูงขึ้นเร่งการละลายของธารน้ำแข็ง เพิ่มความชื้นในอากาศ และทำให้ภูเขาไม่มั่นคง เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไม่บ่อยกลับเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้ภัยธรรมชาติในภูมิภาคนี้รุนแรงและทำลายล้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- วิกฤตไฟป่า “สเปน” รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี ผลาญไปแล้วกว่า 7 แสนไร่!
- วิกฤตกล้วยโลก เสี่ยงกลายเป็นผลไม้หายาก
- “ปากีสถาน” น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตแล้วกว่า 300 ราย ยังสูญหายกว่า 200 ราย
- อุตุฯ เตือนปลายส.ค.-ก.ย. ฝนชุกที่สุดในรอบปี
- “ตราด” น่าห่วงน้ำท่วมหนัก บางจุดท่วมสูง 4 เมตร
- ไข้เลือดออกระบาดหนัก โลกร้อนยิ่งเร่งความรุนแรง
- เตรียมรับมือช่วงฝนชุก 22 ส.ค-1 ก.ย.นี้
ที่มาข้อมูล : Euronews.com
ที่มารูปภาพ : Reuters
