
กรมชลประทานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ 11 จังหวัดลุ่มภาคกลาง จ.อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ในช่วงวันที่ 21ส.ค.น้ำเหนือจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในเกณฑ์1,850 ลบ.ม./วิ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้น 1,200 – 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากในช่วงวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณมากโดยเฉพาะผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบการกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบการกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา แพ โป๊ะ ร้านอาหาร และงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น

สรุปข่าว
กรมชลประทานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ 11 จังหวัดลุ่มภาคกลาง จ.อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ในช่วงวันที่ 21ส.ค.น้ำเหนือจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในเกณฑ์1,850 ลบ.ม./วิ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้น 1,200 – 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากในช่วงวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณมากโดยเฉพาะผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบการกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบการกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา แพ โป๊ะ ร้านอาหาร และงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น

ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ. พบว่าน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าน้ำส่วนหนึ่งถูกตัดยอดผันเข้าทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก และพื้นที่แก้มลิงเหนือเขื่อนแล้วก็ตาม โดยที่จุดวัดน้ำC2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,551ลบ.ม./วิ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงตัวระดับสูงในรอบ24ชม.วัดได้ 15.75ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนแบบขั้นบันได
กรมชลประทานจึงจำเป็นต้อง เพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,200 - 1,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 10 - 90 เซนติเมตร โดยพื้นที่เสี่ยงอาจจะได้รับผลกระทบ คลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ขอให้เฝ้าสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
- เจ้าพระยาเตือนระดับน้ำยกตัว 50 ซม.
- เตือนภัยฝนตกหนัก 18 - 19 สิงหาคม กรมอุตุฯ เผย 17 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง
- “ตราด” น่าห่วงน้ำท่วมหนัก บางจุดท่วมสูง 4 เมตร
- พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยวันที่ 18 ส.ค. 68
- "ปากีสถาน" ยังวิกฤต ฝนตกน้ำท่วมหนัก ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 300 ราย
- “เขื่อนเจ้าพระยา” เพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได
- “ลำปาง” น้ำป่าเขาผีปันน้ำ ทะลักท่วมพื้นที่เกษตร อ.เถิน
ที่มาข้อมูล : ชูเดช สีหะวงษ์ จ.ชัยนาท
ที่มารูปภาพ : ชูเดช สีหะวงษ์ จ.ชัยนาท
