
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ สาเหตุสำคัญที่ทำให้อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศและปัจจัยแวดล้อมหลายด้าน ทำให้พื้นที่แห่งนี้มักประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีพายุหรือร่องมรสุมเข้ามา เช่นกรณีของพายุคาจิกิที่ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและพัดผ่าน ส่งผลให้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกิดโศกนาฏกรรมที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
สรุปข่าว
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ สาเหตุสำคัญที่ทำให้อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศและปัจจัยแวดล้อมหลายด้าน ทำให้พื้นที่แห่งนี้มักประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีพายุหรือร่องมรสุมเข้ามา เช่นกรณีของพายุคาจิกิที่ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและพัดผ่าน ส่งผลให้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกิดโศกนาฏกรรมที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ปัจจัยสำคัญประการแรกคือ ลักษณะภูมิประเทศของแม่แจ่มที่เป็นภูเขาสูงสลับกับหุบเขา พื้นที่กว่า 70% อยู่ในเขตป่าสงวนและพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ ซึ่งถือเป็นต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำปิง เมื่อต้องเผชิญกับฝนตกหนัก น้ำจากภูเขารอบด้านย่อมไหลรวมลงสู่พื้นที่ลุ่มได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง
ประการต่อมาคือ ผลกระทบจากฝนตกหนักต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากพายุคาจิกิ แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังคงสร้างปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติ น้ำจำนวนมหาศาลจึงไม่สามารถระบายออกได้ทัน และกลายเป็นน้ำป่าไหลหลากลงสู่ชุมชน
อีกสาเหตุที่ไม่อาจมองข้ามคือ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในอดีตแม่แจ่มเคยมีป่าไม้สมบูรณ์ แต่ปัจจุบันมีการบุกรุกป่าและปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์บนพื้นที่ลาดชันจำนวนมาก ทำให้ป่าไม้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้อย่างที่ควรจะเป็น น้ำฝนที่ตกลงมาจึงไหลบ่าลงสู่พื้นที่ราบโดยตรง ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อราคาพืชเศรษฐกิจอย่างข้าวโพดจูงใจให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมี ปัญหาระบบระบายน้ำไม่เพียงพอ เมื่อปริมาณน้ำฝนมากเกินไป ระบบที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับได้ทัน ทำให้น้ำเอ่อล้นและท่วมขัง รวมทั้งยังมีการไหลรวมของลำน้ำสาขาจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อำเภอเชียงดาวและแม่แตง ที่มาสมทบกับลำน้ำแม่แจ่มและแม่น้ำปิง ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่า
แม้ภาครัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาผ่านโครงการ “แม่แจ่มโมเดลพลัส” และการจัดสรรที่ดินทำกิน คทช. เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ แต่ในทางปฏิบัติยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากความต้องการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรยังคงมีอยู่สูง
กล่าวโดยสรุป อำเภอแม่แจ่มต้องเผชิญกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเนื่องมาจากการผสมผสานกันของหลายปัจจัย ได้แก่ ภูมิประเทศที่เป็นหุบเขา การเสื่อมโทรมของป่าไม้ การใช้พื้นที่ลาดชันเพื่อเกษตร การตกหนักจากพายุ รวมทั้งระบบระบายน้ำที่ไม่เพียงพอ ปัจจัยเหล่านี้เมื่อมาบรรจบกันจึงทำให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่มาข้อมูล : Sonthi Kotchawat
ที่มารูปภาพ : Sonthi Kotchawat
