ท่อตัน-พื้นที่สีเขียวหด สาเหตุน้ำท่วม “บาหลี” เกาะสวรรค์กำลังเสื่อมโทรม

ท่อตัน-พื้นที่สีเขียวหด สาเหตุน้ำท่วม “บาหลี” เกาะสวรรค์กำลังเสื่อมโทรม

“เกาะบาหลี” เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย กำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 คน ล่าสุดกระทรวงสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซียออกคำสั่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดขยะที่ค้างสะสมในท่อระบายน้ำ หลังพบว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมยิ่งทวีความรุนแรง


ฮานิฟ นูโรฟิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่า การจัดการขยะที่ล้มเหลวและมาตรการป้องกันที่ไม่เพียงพอคือสาเหตุหลักของความเสียหายครั้งนี้ พร้อมระบุว่าภัยพิบัติครั้งนี้ควรถูกใช้เป็น “บทเรียนสำคัญ” แม้ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นจะเร่งกำจัดขยะที่อุดตัน แต่ก็ยอมรับว่าปัญหาไม่อาจแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น นอกจากปัญหาขยะแล้ว การพัฒนาพื้นที่เพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยซ้ำเติม 

สรุปข่าว

สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงบน “เกาะบาหลี” แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 คน ซึ่งปัจจัยที่เพิ่มความรุนแรงของภัยพิบัติในครั้งนี้มาจากขยะที่อุดตันในท่อระบายน้ำ และพื้นที่สีเขียวที่หดตัวลงจากการขยายตัวของโรงแรมและร้านค้าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

“เกาะบาหลี” เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย กำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 คน ล่าสุดกระทรวงสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซียออกคำสั่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดขยะที่ค้างสะสมในท่อระบายน้ำ หลังพบว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมยิ่งทวีความรุนแรง


ฮานิฟ นูโรฟิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่า การจัดการขยะที่ล้มเหลวและมาตรการป้องกันที่ไม่เพียงพอคือสาเหตุหลักของความเสียหายครั้งนี้ พร้อมระบุว่าภัยพิบัติครั้งนี้ควรถูกใช้เป็น “บทเรียนสำคัญ” แม้ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นจะเร่งกำจัดขยะที่อุดตัน แต่ก็ยอมรับว่าปัญหาไม่อาจแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น นอกจากปัญหาขยะแล้ว การพัฒนาพื้นที่เพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยซ้ำเติม 

การเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวไปสร้างโรงแรมและร้านค้า ทำให้ความสามารถตามธรรมชาติในการดูดซับน้ำลดลงอย่างมาก ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นเปิดเผยว่า ระหว่างปี 2018–2023 เกาะบาหลีเผชิญการเสื่อมโทรมของพื้นดินถึงร้อยละ 3–6 ส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรมหดตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดบ่อยขึ้นในอนาคต

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters