
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้มีความกังวลเนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาแม่น้ำเจ้าพระยามีจำนวนมาก เกือบเทียบเท่ากับปี 2554 อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์หากมีพายุเข้า โดยคาดว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงเท่าปี 2554
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมแก้ไขจุด “ฟันหลอ” จำนวน 10 จุด ด้วยการวางกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าสู่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น คลองรังสิต และคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำเหนือ โดยมีการหารือร่วมกับจังหวัดข้างเคียงอย่างต่อเนื่อง เช่น สมุทรปราการและนนทบุรี
สรุปข่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้มีความกังวลเนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาแม่น้ำเจ้าพระยามีจำนวนมาก เกือบเทียบเท่ากับปี 2554 อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์หากมีพายุเข้า โดยคาดว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงเท่าปี 2554
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมแก้ไขจุด “ฟันหลอ” จำนวน 10 จุด ด้วยการวางกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าสู่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น คลองรังสิต และคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำเหนือ โดยมีการหารือร่วมกับจังหวัดข้างเคียงอย่างต่อเนื่อง เช่น สมุทรปราการและนนทบุรี
สำหรับฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งรับน้ำจากพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการระบายออก 3 ทิศทาง ได้แก่ ทางแปดริ้ว ปากน้ำ และคลองประเวศบุรีรมย์ มาที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ซึ่งมีข้อจำกัดจากคลองที่คดเคี้ยวทำให้ระบายน้ำช้า จึงเกิดน้ำท่วมขังบางจุดเมื่อมีฝนตกหนัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝนเริ่มทิ้งช่วง ทำให้การระบายน้ำในพื้นที่ที่เคยมีน้ำขังทำได้ดีขึ้น
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า เขื่อนเจ้าพระยายังคงควบคุมการระบายน้ำไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานได้ผันน้ำออกทางซ้ายขวาเข้าสู่คลองต่าง ๆ เช่น คลองมหาราช เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ โดยเฉพาะในลุ่มน้ำท่าจีน เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด
หากจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะมีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า 3 วัน ขณะที่การผันน้ำเข้าทุ่งรับน้ำจะใช้เป็นมาตรการสุดท้ายกรณีเกิดฝนตกหนักมากหรือมีพายุเข้า เพื่อป้องกันน้ำท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่อื่น
ทั้งนี้ หากมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำมากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำใน 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และบางส่วนของนนทบุรี โดยคาดว่าจะมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมรวมประมาณ 138,100 ไร่
- น้ำท่วม 2568 เปิดพื้นที่เหนือเขื่อน-ท้ายเขื่อน รับผลกระทบจาก "เขื่อนเจ้าพระยา"
- "เขื่อนเจ้าพระยา" คงการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน
- "เขื่อนเจ้าพระยา" เตรียมพร้อมรับน้ำเหนือ 4 ตำบล จ.ชัยนาท ท่วมแล้ว 100 หลังคา
- กทม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน เสริมแนวป้องกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- "เขื่อนเจ้าพระยา" แจ้งระบายน้ำเป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไป
