ญี่ปุ่นเผยเคล็ดลับ “อายุยืนยาว” เดินหน้าสร้างสุขภาพดี ควบคู่ความยั่งยืน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวกว่าหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา คือเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นปลาและผักเป็นหลัก ลดการบริโภคเนื้อแดง อีกทั้งภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ให้ประชาชนลดการบริโภคเกลือและน้ำตาลลง ทำให้เมนูอาหารของคนญี่ปุ่นมีความสมดุลและดีต่อสุขภาพ ส่งผลให้มีอัตราการเป็นโรคอ้วนต่ำ โดยเฉพาะในผู้หญิง ซึ่งสอดคล้องกับสถิติที่พบว่าผู้หญิงญี่ปุ่นมีอายุยืนกว่าผู้ชายอย่างมาก

นอกจากนี้ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมความยืนยาวของอายุ คนญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงเดินเท้าและใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แม้ในวัยสูงอายุ อีกทั้งวัฒนธรรมการออกกำลังกายแบบ "ราจิโอไทโซ" ซึ่งเป็นการบริหารร่างกายสั้น ๆ เพียง 3 นาที แต่ทำเป็นกิจวัตรประจำวันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ก็ช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นก็กำลังเผชิญความท้าทายจากการที่สังคมก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2040 ญี่ปุ่นอาจขาดแรงงานมากถึง 11 ล้านคน รัฐบาลจึงได้ออกแนวทางปฏิบัติสำหรับสังคมผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุยังคงทำงานและมีส่วนร่วมกับสังคมต่อไป โดยตั้งแต่ปี 2022 พบว่าบริษัทในญี่ปุ่นเกือบครึ่งหนึ่งมีพนักงานอายุเกิน 70 ปี ซึ่งแตกต่างจากแนวโน้มของบริษัททั่วโลกที่มักมีพนักงานสูงวัยน้อยกว่า

จากทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า ความสำเร็จของญี่ปุ่นในการทำให้ประชากรมีอายุยืน ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการกินที่ดี การใช้ชีวิตที่กระฉับกระเฉง ระบบสังคมที่สนับสนุนสุขภาพ และนโยบายของรัฐที่เข้มแข็ง อีกทั้งญี่ปุ่นยังพยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับสังคมผู้สูงอายุ เพื่อรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจและแรงงานในอนาคต ความสามารถในการจัดการเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาว แต่ยังเป็นรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนว่า “การมีสุขภาพดีไปพร้อมกับความยั่งยืน” คือเป้าหมายที่ทุกประเทศควรมุ่งไปสู่