พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย ด้วย “กราฟีน” วัสดุแห่งอนาคต เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

ผู้ร่วมเสวนาทั้ง 3 ท่านได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ของ “กราฟีน” (Graphene) ที่ได้ชื่อว่าเป็นวัสดุแห่งอนาคตสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ถือเป็นกุญแจสำคัญในการมุ่งสู่ความยั่งยืนตามที่ตั้งเป้าไว้ โดย ศ.ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สถานบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พาผู้ฟังไปทำความรู้จักกับ “กราฟีน” (Graphene) ประกอบด้วยชั้นคาร์บอนอะตอมความหนา 1 ชั้น มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าและความร้อนดีกว่าทองแดง แข็งแกร่งกว่าเหล็ก และเบาที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีความโปร่งแสง ทนต่อการกัดกร่อน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ “กราฟีน” ได้รับการขนานนามว่าเป็นวัสดุแห่งอนาคตที่สามารถปรับใช้ได้หลากหลาย 

ด้านดร.วัฒนา ตุ่ยไชย ผู้จัดการฝ่ายวิจัย และพัฒนาภลิตภัณฑ์ และ Graphene Specialist บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด กล่าวว่าทางซีพีรีเทลลิงค์ ได้ใช้ “กราฟีน” มาประยุกต์ใช้ทดลองกับร้านเซเว่นอีเลฟเวน โดยใช้เป็นส่วนผสมในวัสดุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารลงได้ 6-10% โดยใช้เป็รสารเคลือบโซลาร์เซลล์ สารเคลือบคลอยล์ร้อน กระจก สีทาผนังสะท้อนความร้อน สีเส้นจราจร สีป้องกันสนิม เพิ่มประสิทธิภาพลดการเกาะของฝุ่น ทำความสะอาดง่าย เพิ่มการถ่ายเทความร้อน ป้องกันรังสี UV ป้องกันความร้อนได้ดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

สำหรับซีพี แอ็กซ์ตร้า เป็นห้างค้าปลีก ค้าส่งที่มีอาคารใหญ่และเล็กจำนวนมากทั่วประเทศ ขณะเดียวกันมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง ซึ่งทางดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายก่อสร้างและบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่านโยบายของ CP Group มุ่งมั่นสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2030 และมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2070 สอดคล้องกับนโยบายด้านก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ดังนั้นซีพี แอ็กซ์ตร้าได้นำร่องด้านวัสดุศาสตร์ทดลองใช้ “กราฟีน” ซึ่งเป็นวัสดุแห่งอนาคตประยุกต์ใช้ร่วมกับวัสดุภัณฑ์อื่นๆ ในห้างค้าปลีก ค้าส่ง แม็คโครและโลตัส จำนวน 4 สาขา โดยใช้เป็นสารเคลือบพื้นผิวคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศ ลดการส่งผ่านความร้อนเข้าสู่อาคาร และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายเทความร้อนในระบบปรับอากาศและระบบทำความเย็น ผลการทดสอบของภาพรวมพบว่ามีประสิทธิภาพดี สามารถลดการใช้พลังงานลง และยังลดต้นทุนด้านพลังงานได้อีกด้วย โดยแผนงานในอนาคตยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมร่วมกับผู้ผลิตในส่วนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพลดการใช้พลังงานให้มากขึ้น นอกจากนี้ CP ALL ได้เดินหน้าจัดตั้งโรงงานผลิตกราฟีนในระดับอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับเพิ่มขีดความสามมารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย

จากเวทีเสวนาครั้งนี้จะเห็นว่า “กราฟีน” เป็นวัสดุแห่งอนาคตที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายภาคส่วนแทบทุกอุตสาหกรรม ช่วยยกระดับ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน