
รายงาน “Our Marine Environment” จากรัฐบาลนิวซีแลนด์ ระบุว่า อุณหภูมิของมหาสมุทรรอบประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 34% แถมยังมีความเป็นกรดมากขึ้น และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังคุกคามบ้านเรือนบริเวณพื้นที่แนวชายฝั่ง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศอย่างคาดไม่ถึง
ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในมหาสมุทรเกือบทั่วโลก อุณหภูมิน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดคลื่นความร้อนในทะเลบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้กำลังรบกวนกระแสน้ำที่ไหลเวียนระหว่างประเทศนิวซีแลนด์กับทวีปแอนตาร์กติกา ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิในมหาสมุทรและทะเลรอบนิวซีแลนด์อุ่นเร็วกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก จากการเก็บข้อมูลพื้นฐาน 4 ตำแหน่งรอบนิวซีแลนด์ พบว่า อุณหภูมิที่ผิวน้ำทะเลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.16-0.26 องศาเซลเซียส
สรุปข่าว
รายงาน “Our Marine Environment” จากรัฐบาลนิวซีแลนด์ ระบุว่า อุณหภูมิของมหาสมุทรรอบประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 34% แถมยังมีความเป็นกรดมากขึ้น และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังคุกคามบ้านเรือนบริเวณพื้นที่แนวชายฝั่ง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศอย่างคาดไม่ถึง
ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในมหาสมุทรเกือบทั่วโลก อุณหภูมิน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดคลื่นความร้อนในทะเลบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้กำลังรบกวนกระแสน้ำที่ไหลเวียนระหว่างประเทศนิวซีแลนด์กับทวีปแอนตาร์กติกา ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิในมหาสมุทรและทะเลรอบนิวซีแลนด์อุ่นเร็วกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก จากการเก็บข้อมูลพื้นฐาน 4 ตำแหน่งรอบนิวซีแลนด์ พบว่า อุณหภูมิที่ผิวน้ำทะเลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.16-0.26 องศาเซลเซียส
ในช่วงระยะที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดคลื่นความร้อนทางทะเลบ่อยครั้ง และรุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันทะเลมีความเป็นกรดมากขึ้นจากการดูดซับก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศ ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง และยังคุกคามสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ต้องใช้แคลเซียมคาร์บอเนตในการสร้างเปลือกหรือโครงสร้างหินปูน อย่างเช่น หอย สัตว์มีเปลือก รวมถึงปะการังและแพลงก์ตอนบางชนิด ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปรับตัวให้อยู่รอด และอาจต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันอาจถูกแทนที่ด้วยสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นที่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมใหม่
นอกจากนี้ ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งหลายแห่ง โดยบ้านเรือนกว่า 200,000 หลังคาเรือนตกอยู่ในความเสี่ยงอาจถูกน้ำทะเลกัดเซาะและน้ำท่วมจากฝนตกหนัก
ไม่เพียงแต่นิวซีแลนด์เท่านั้นที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ชายฝั่งและระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง แต่ยังมีประเทศเกาะอีกมากมายทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศได้เช่นกัน
- นกทั่วโลกหายไปกว่าครึ่ง เมืองขยาย ป่าหาย โลกป่วย สัญญาณเตือนวิกฤตสัตว์สูญพันธุ์
- น้ำท่วมขยายวงกว้าง “อยุธยา” จมเพิ่ม 1 อำเภอ บางจุดท่วมนาน 3-4 เดือน
- นายกฯ นำคณะลงพื้นที่น้ำท่วมพิจิตร ย้ำไม่ละเลย จ่ายเยียวครัวเรือนละ 9 พันบาท
- หมู่เกาะแปซิฟิกกำลังจมน้ำ ชาวเกาะขอ “วีซ่ามนุษยธรรม” อพยพเข้าประเทศอื่น หนีภัยโลกร้อน
- โลกจับตา “เจ้าชายวิลเลียม” เตรียมร่วมประชุม COP30 ที่บราซิล ปลุกพลังผู้นำโลกสู้โลกร้อน
