พยากรณ์อากาศวันนี้ 7 พฤศจิกายน 2568 “พายุคัลแมกี” อ่อนกำลัง จ่อเข้าโขงเจียม บ่ายวันนี้

Share on Line Share on Facebook Share on X
พยากรณ์อากาศวันนี้ 7 พฤศจิกายน 2568 “พายุคัลแมกี” อ่อนกำลัง จ่อเข้าโขงเจียม บ่ายวันนี้

พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ข้างหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันนี้ (7 พ.ย. 68) โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของพายุและลมมรสุม ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง

พายุโซนร้อน “คัลแมกี” จ่อเข้าอุบลราชธานี

พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งอยู่บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนาม ได้อ่อนกำลังลงเป็น พายุโซนร้อนแล้ว และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วง บ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

สรุปข่าว

พายุโซนร้อน "คัลแมกี" อ่อนกำลังลงและคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงบ่ายวันนี้ (7 พ.ย. 68) ส่งผลให้เกิด ฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมแรงในภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ พื้นที่เสี่ยงฝนหนักถึงหนักมากคือภาคอีสาน (อุบลฯ, ศรีสะเกษ, มุกดาหาร) และภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ระนอง, ภูเก็ต) ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40

พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ข้างหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันนี้ (7 พ.ย. 68) โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของพายุและลมมรสุม ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง

พายุโซนร้อน “คัลแมกี” จ่อเข้าอุบลราชธานี

พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งอยู่บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนาม ได้อ่อนกำลังลงเป็น พายุโซนร้อนแล้ว และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วง บ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

คำเตือนฝนหนักถึงหนักมาก

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม

พื้นที่เสี่ยงสูงสุด: จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์

นอกจากนี้ ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าว

สถานการณ์คลื่นลมทะเล

คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 68

สรุปพยากรณ์อากาศรายภาค (วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้)

ภาคเหนือ: อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ศรีสะเกษ, ยโสธร, มุกดาหาร, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, บุรีรัมย์, นครราชสีมา และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี, สระบุรี, นครสวรรค์, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระแก้ว, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครนายก, จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มารูปภาพ : TNN