“คัลแมกี” ถล่มเวียดนาม เสียชีวิตแล้ว 5 คน แม้พายุอ่อนกำลังแต่ทิ้งความเสียหายยับ

Share on Line Share on Facebook Share on X
“คัลแมกี” ถล่มเวียดนาม เสียชีวิตแล้ว 5 คน แม้พายุอ่อนกำลังแต่ทิ้งความเสียหายยับ

พายุ “คัลแมกี” สร้างความเสียหายรุนแรงในเวียดนามหลังพัดขึ้นฝั่งเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ด้วยแรงลมสูงสุด 149 กม./ชม. อิทธิพลของพายุส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ลมกระโชกแรง และน้ำท่วมฉับพลัน มีรายงานบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 3,000 หลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก กว่า 1,600,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ขณะพายุพัดขึ้นฝั่ง เรือประมงอับปาง 11 ลำ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน 

 

โดยปกติแล้วในฤดูมรสุมเวียดนามมักจะเผชิญกับพายุหมุนเขตร้อนเฉลี่ยปีละ 10 ลูก แต่พายุ “คัลแมกี” นับเป็นพายุลูกที่ 13 ของปี และสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับเวียดนาม

สรุปข่าว

พายุ “คัลแมกี” พัดถล่มเวียดนามตอนกลางวานนี้ (7 พ.ย.) อิทธิพลของพายุส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก คลื่นลมแรง และน้ำท่วมฉับพลัน แรงลมพัดบ้านเรือนพังถล่มได้รับความเสียหายกว่า 3,000 หลังคาเรือน ถนนหนทางเสียหายหลายแห่ง แม้พายุจะอ่อนกำลังลงหลังขึ้นฝั่งแต่ยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของเวียดนาม

พายุ “คัลแมกี” สร้างความเสียหายรุนแรงในเวียดนามหลังพัดขึ้นฝั่งเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ด้วยแรงลมสูงสุด 149 กม./ชม. อิทธิพลของพายุส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ลมกระโชกแรง และน้ำท่วมฉับพลัน มีรายงานบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 3,000 หลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก กว่า 1,600,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ขณะพายุพัดขึ้นฝั่ง เรือประมงอับปาง 11 ลำ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน 

 

โดยปกติแล้วในฤดูมรสุมเวียดนามมักจะเผชิญกับพายุหมุนเขตร้อนเฉลี่ยปีละ 10 ลูก แต่พายุ “คัลแมกี” นับเป็นพายุลูกที่ 13 ของปี และสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับเวียดนาม

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิในมหาสมุทรอุ่นขึ้น และเป็นตัวเร่งให้พายุมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอุณหภูมิเฉลี่ยโลกที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 องศาเซลเซียส จะทำให้ไอน้ำระเหยมากขึ้น ชั้นบรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น 7% และเป็นสาเหตุให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้นกว่าเดิม

แม้ว่าพายุ “คัลแมกี” จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว แต่กรมอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม ยังคงออกประกาศเตือนฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางตอนกลางของประเทศ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ 

ที่มาข้อมูล : AFP

ที่มารูปภาพ : AFP