ทำความรู้จัก “ฟูจิวาระ” ปรากฏการณ์พายุหมุนคู่ ที่นักอุตุนิยมวิทยาจับตา

Share on Line Share on Facebook Share on X
ทำความรู้จัก “ฟูจิวาระ” ปรากฏการณ์พายุหมุนคู่ ที่นักอุตุนิยมวิทยาจับตา

ปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่เรียกว่า “ฟูจิวาระ” (Fujiwhara Effect) กลายเป็นหัวข้อที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พายุไต้ฝุ่น “โคโตะ” และพายุ “เซนยาร์” เคลื่อนตัวเข้าใกล้กันในทะเลจีนใต้ โดยทั้งสองระบบเริ่มโคจรรอบกันอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้เส้นทางและความแรงของพายุมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่คาดคิด


ปรากฏการณ์ “ฟูจิวาระ” เกิดขึ้นเมื่อพายุหมุนเขตร้อนสองลูกเคลื่อนเข้ามาใกล้กันในระยะราวหลายร้อยถึงพันกว่ากิโลเมตร ทำให้เกิดแรงดึงดูดซึ่งทำให้ทั้งสองระบบหมุนรอบกัน คล้ายการเต้นรำ บางครั้งพายุทั้งสองอาจรวมตัวเป็นพายุลูกเดียวหรือมีระบบหนึ่งดูดกลืนอีกระบบหนึ่ง ทั้งนี้ การโคจรรอบกันของพายุสามารถทำให้เส้นทางของพายุและปริมาณฝนเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

สรุปข่าว

ทำความรู้จัก “ฟูจิวาระ” (Fujiwhara Effect) ปรากฏการณ์พายุหมุนเขตร้อนสองลูกโคจรรอบกัน ที่อาจทำให้เส้นทางและความแรงของพายุเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่คาดคิด ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาจับตาพายุไต้ฝุ่น “โคโตะ” และหย่อมความกดอากาศต่ำจาก “เซนยาร์” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กันในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีโอกาสเกิดปรากฏการณ์ฟูจิวาระครั้งนี้ แต่ผลกระทบคาดว่าไม่รุนแรงมากนัก เพราะทั้ง 2 ลูกเคลื่อนมาเจอกับมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมในช่วงนี้ ทำให้ช่วยลดทอนกำลังของพายุลงได้มาก

ปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่เรียกว่า “ฟูจิวาระ” (Fujiwhara Effect) กลายเป็นหัวข้อที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พายุไต้ฝุ่น “โคโตะ” และพายุ “เซนยาร์” เคลื่อนตัวเข้าใกล้กันในทะเลจีนใต้ โดยทั้งสองระบบเริ่มโคจรรอบกันอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้เส้นทางและความแรงของพายุมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่คาดคิด


ปรากฏการณ์ “ฟูจิวาระ” เกิดขึ้นเมื่อพายุหมุนเขตร้อนสองลูกเคลื่อนเข้ามาใกล้กันในระยะราวหลายร้อยถึงพันกว่ากิโลเมตร ทำให้เกิดแรงดึงดูดซึ่งทำให้ทั้งสองระบบหมุนรอบกัน คล้ายการเต้นรำ บางครั้งพายุทั้งสองอาจรวมตัวเป็นพายุลูกเดียวหรือมีระบบหนึ่งดูดกลืนอีกระบบหนึ่ง ทั้งนี้ การโคจรรอบกันของพายุสามารถทำให้เส้นทางของพายุและปริมาณฝนเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

สถานการณ์ล่าสุด คือนักวิทยาศาสตร์ได้จับตา พายุโคโตะและเซนยาร์ ว่าจะมีแนวโน้มมารวมตัวกันในช่วงวันที่ 1–2 ธันวาคมนี้หรือไม่? หากเกิดการรวมตัวจริง พายุโคโตะอาจฟื้นตัวกลับเป็นโซนร้อนอีกครั้งและเคลื่อนตัวไปยังฝั่งเวียดนาม โดยเฉพาะบริเวณเมือง Quy Nhon แต่สำหรับประเทศไทย แม้ว่าพายุจะไม่ขึ้นฝั่งโดยตรง แต่พื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดระยอง ชลบุรี และตราด อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกเพิ่มและความชื้นสูง ขณะที่มวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ช่วยลดทอนพลังของพายุ ทำให้ความรุนแรงโดยรวมไม่เพิ่มมากนัก


นักอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า การปฏิสัมพันธ์ของพายุสองระบบเช่นนี้เป็นตัวอย่างจริงของ “ฟูจิวาระ” โดยพายุ “โคโตะ” ได้ดึงดูดระบบไหลเวียนอากาศของ “เซนยาร์” แต่การแผ่ของมวลอากาศเย็นช่วยจำกัดความแรงของพายุ ทำให้พายุคู่ครั้งนี้มีผลกระทบต่อไทยไม่มาก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงเส้นทางและปริมาณฝนยังคงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ฝนที่เพิ่มขึ้นจากพายุทั้งสองลูก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า และคลื่นลมแรง โดยเฉพาะเรือเล็กและเรือประมงควรหลีกเลี่ยงการออกทะเล


เหตุการณ์นี้ยังเป็นกรณีศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าการพยากรณ์พายุหมุนเขตร้อนต้องพิจารณาทั้งโครงสร้างพายุ ระบบรอบตัว และปัจจัยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในยุคที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลสูงขึ้นซึ่งอาจเพิ่มโอกาสที่พายุหลายระบบก่อตัวพร้อมกันและโคจรรอบกันในลักษณะของ “ฟูจิวาระ” ได้

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : กรมอุตุนิยมวิทยา

แท็กบทความ