
สรุปข่าว
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.พ.65) "บิณฑ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" สองพี่น้องนักแสดงคู่แฝด ได้ออกมาแถลงข่าวอัปเดตความคืบหน้าอาการป่วยของนักแสดงรุ่นใหญ่ "สรพงศ์ ชาตรี" หลังจากที่ได้เข้าไปเยี่ยมอาการที่โรงพยาบาล
โดยทั้งคู่เล่าว่า ต้องย้อนกลับไปถึงเรื่องข่าวที่ออกมาว่ามะเร็งสมอง แล้วทำให้ทุกคนเป็นห่วงเป็นใย เเล้วจะเข้าใจผิด เริ่มเเรกเลยที่ไปเยี่ยมเมื่อ 5 ปีที่เเล้ว คือเป็นมะเร็งที่ปอด เเล้วก็ตัดไปประมาณ 4-5 นิ้ว เจาะปอดเอาไปตรวจ จากนั้นประมาณ 5-6 ปีที่เเล้วตัดไปที่ปอดด้านซ้าย และรักษาตามอาการมาตลอดจนแข็งแรงดี และกลับมาทำงานได้ปกติ
จนกระทั้งมาปีที่เเล้ว 2564 อาการกลับมาอีกทีนึง ทราบข่าวเพราะว่าภรรยาของพี่เอกโทรบอกว่าพี่เอกไม่สบาย ก็พากันไปเยี่ยม ตอนนั้นเริ่มรู้สึกความเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ค่อยแข็งเเรง เป็นมะเร็งปอดที่เดิม กลับมากำเริบ มีเชื้อกระจายตามร่างกาย ก็จะปีนึงเเล้วอาการก็ทรง และดูจะดีขึ้นตลอด
แต่มาเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ที่เข้าไอซียู และฉุกเฉินเพราะว่า พี่เอกไปทานกล้วยน้ำหว้า และเกิดการสำลัก กล้วยเข้าไปในหลอดลม ทำให้หายใจไม่ออก เลยเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ก็จัดการทำอย่าง และอาการดีขึ้นตามลำดับ ตอนนี้ก็ยังอยู่ห้องไอซียู แต่เมื่อเช้าไปเยี่ยมหน้าตาสดใสมาก แต่พี่เอกยังมีอาการไอถ้าพูดเเล้วจะสำลักเลยต้องให้ยานอนหลับตลอด
และที่ข่าวออกมาว่าเป็นมะเร็งสมอง จริงๆ เป็นข่าวลือ พี่เอกแค่เชื้อมะเร็งกระจายตามร่างกาย แต่ไม่ถึงกับเป็นมะเร็งที่สมอง ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ จริงๆ ถ้าเขาไม่สำลักอาหาร ก็รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ก็ดีวันดีคืน หน้าตาสดใส ทางคุณเดือน ภรรยา บอกว่าถ้าไม่สำลักอาหาร แล้วรักษาตัวอยู่ที่บ้านก็ยังเดินได้ พูดได้จำได้ ก็อยากให้แฟนๆ อย่าได้วิตกกังวลเรื่องมะเร็งสมองเพราะไม่มีมะเร็งที่สมอง พี่เอกเป็นที่ปอด แต่ยังรักษาตามอาการอยู่ อยากให้เบาใจ คลายกังวล
กับข่าวที่ว่า"พี่เอก"จำบทไม่ได้คือยังไง? บิณฑ์ "มันมีส่วนมาจากมะเร็งที่ปอด แล้วมันก็อาจจะทำให้ภาวะในร่างกายที่มันไม่ปกติ มันก็ทำให้พี่เอกอาจจะจำได้ แต่ช้าหน่อย หรือจะพูดอะไรก็ต้องนึกหน่อย อาจจะช้ากว่าคนปกติประมาณ 3-5 วินาที"
เอกพันธ์ "ยาของพี่เอกในการรักษามะเร็ง ยาอาจจะมีส่วนทำให้รู้สึกว่าเบลอๆ และช้านิดนึง กว่าจะทำอะไรหรือจำใครต้องใช้เวลานิดนึง มันเป็นตัวยาที่พี่เอกต้องรับประทานทุกวันเพื่อรักษามะเร็ง แต่จริงๆ คุณหมอบอกว่าถ้าเกิดเป็นมะเร็งที่สมองจริงๆ ไม่เกิน 1 เดือนครับน่าจะไปแล้ว แต่ถามว่ามีไหม คือมะเร็งมันกระจายไปทั่ว มันอาจจะมีส่วนน้อยมากนะที่อาจจะเข้าไปตามร่างกาย แต่หนักๆ ที่โฟกัสเลยก็คือที่ปอด แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้ว"
บิณฑ์ "พี่เอกรู้ตัวนะถึงถอนตัวออกจากละคร เวลาจะนึกอะไรก็จะช้ากว่าคนอื่นก็เลยไม่เล่น ถอนตัวออกมาเอง พี่เขารู้ตัวว่าถ้าเล่นหรือรับงานอะไรไปแล้วทำให้งานเสียหรือล่าช้าพี่เอกก็จะไม่ทำ"
เอกพันธ์ "พี่เขาโชคดีมียาดีที่รักษาเฉพาะจุดได้เลย ภรรยาบอกว่ายาตัวนี้ต้องหาหมอทุกเดือน ถ้าครบโดสแล้วพี่เอกน่าจะกลับมาปกติเหมือนเดิมได้ เข็มนึงแสนแปด ก็ต่อครั้งนึงที่ฉีด ตอนนี้ฉีดไปประมาณ 4 – 5 เข็มแล้ว แต่ก็โอเคครับ เพราะว่ากำลังใจของทุกคนเป็นสิ่งสำคัญ"
บิณฑ์ "ภรรยาของพี่เอกฝากเราสองคนมาขอบคุณทุกๆ ท่านที่เป็นห่วงพี่เอก สรพงศ์ คิดว่าถ้าตามแผนที่รักษาไม่เกิน 5 วัน หรือหนึ่งอาทิตย์ พี่เอกสามารถกลับบ้านได้ เดี๋ยวผมไปเยี่ยมและจะไลฟ์สดนั่งคุยกับพี่เอก และจะมาอัปเดตอาการอีกทีครับ ส่วนค่ารักษาตอนนี้มีทางโรงพยาบาลก็จะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายถือว่าช่วยพี่เอกอีกทางนึง แต่เรื่องค่าใช้จ่ายผมว่าน่าจะซอฟต์ลงมา จะมีทางผู้ใหญ่ที่รู้ข่าวก็มาช่วย เพราะถ้าให้ทางคุณเดือนภรรยาคนเดียวคงไม่ไหว มีหลายๆ คนที่ช่วยเหลือ"
เอกพันธ์ "ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ แฟนๆ ของพี่เอก ก็ภาวนากันนะครับ ก็ช่วยกันส่งจิตแรงใจให้แก่พี่เอกให้หายป่วยเร็วๆ"
บิณฑ์ "ผมก็เป็นตัวแทนของพี่เอกและน้องเดือนภรรยาพี่เขานะครับ เมื่อเช้าผมไปดูมาก็ดีใจพี่เอกน้ำหนักขึ้นด้วย หน้าตาสดใสกว่าที่ผมไปเยี่ยมเมื่อต้นปี ตอนนี้ดีขึ้น หน้าตาใสหล่อมาก สุขภาพเริ่มดี ผมว่าอีกไม่เกิน 7 วันพี่เอกก็น่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงครับ"
ภาพจาก : เพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ภาพจาก : เพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ภาพจาก : เพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ภาพจาก : อินสตาแกรม sorapong_chatree.club
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand