สรุปข่าว
เหล่าซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดพร้อมใจกันแต่งตัวสวยหล่อมาร่วมงานมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 กันอย่างเต็มที่ โดยซุปตาร์หนุ่มที่หล่อที่สุดบนพรมแดงต้องยกให้กับ "ทิโมธี ชาลาเมท์" (Timothee Chalamet) ที่สวมเชิ้ตแขนยาวไม่ติดกระดุมเสื้อโชว์สร้อยคอและแผ่นอกสุดเซ็กซี่ ส่วนกางเกงกับรองเท้าก็ดูเข้าหล่อเท่แบบฉุดไม่อยู่ ส่วนเดรสที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายที่ "เจสสิกา เชสเทน" (Jessica Chastain) สวมมาร่วมงานก็ได้รับคำชมจากเว็บไซต์ "Variety" ว่าเป็นเดรสที่งามสง่าที่สุดของงาน ส่วนเดรสสีชมพูสายเดี่ยวแหวกข้างของ "ลิลี่ เจมส์" (Lily James) ก็ดูสวยมากๆบนงานพรมแดง
Photo Credit : AP
Photo Credit : AP
Photo Credit : AP
ส่วนซุปตาร์ดังคนอื่นๆที่ดูเฉิดฉายมากๆบนงานพรมแดงออสการ์ปีนี้ก็มีอาทิ "วาเนสซา ฮัดเจนส์" (Vanessa Hudgens) ที่ดูสวยมากๆด้วยเดรสซีควินท์สีดำ เสื้อแขนยาวครอปเหนือหน้าท้องพร้อมด้วยกระโปรงยาวสีเงินของ "เซนเดยา" (Zendaya) ก็ดูงามสง่ามากๆ ซึ่งก็รวมถึงเดรสดีไซน์เก๋ของ "แม็กกี จิลเลนฮาล" (Maggie Gyllenhaal) และเดรสสวยแบบเรียบๆของ "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman) ด้วย
Photo Credit : AP
Photo Credit : AP
Photo Credit : AP
Photo Credit : AP
ความพิเศษของงานออสการ์ปีนี้ซึ่งจัดขึ้นที่ "Dolby Theatre" ก็คือครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดงานด้วยโชว์เพลง "Be Alive" ของ "Beyonce" ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม โดยโชว์นี้จัดเวทีการแสดงกันกลางหมู่บ้านในย่านดาวน์ทาวน์ของนคร "ลอส แองเจลิส"
Photo Credit Website : The New York Post
ความพิเศษที่ 2 ก็คือปีนี้เป็นแรกอีกเช่นกันที่ได้พิธีกรมาดำเนินรายการถึง 3 คนคือ "เรจินา ฮอล" (Regina Hall), "เอมี ชูเมอร์" (Amy Schumer) และ "แวนดา ไซส์" (Wanda Skyes) ซึ่งทุกคน็สร้างสีสันด้วยมุกตลกแบบจิกกัดสุดฮาได้เป็นอย่างดี รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของ "เอเรียนา เดอโบส" (Ariana DeBose) จากหนังเพลงเรื่อง "West Side Story" ไปตามความคาดหมาย โดยหนังเรื่อง Dune สามารถคว้ารางวัลที่ 2 ของงานต่อจาก "Best Sound" ซึ่งก็คือสาขากำกับภาพยอดเยี่ยมไปได้ โดย "เกรก เฟรเซอร์" (Greig Fraser) รางวัลเทคนิคพิเศษทางด้านภาพยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Dune" รางวัลภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Queen of Basketball"
Photo Credit Website : NPR
"เอเรียนา เดอโบส"
Photo Credit Website : NPR
"Encanto" หนังแอนิเมชั่นจากค่าย "Walt Disney" คว้ารางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครองได้ตามคาด ส่วน "ทรอย คอทเซอร์" (Troy Kotsur) เป็นนักแสดงพิการทางการได้ยินคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครองได้จากหนังเรื่อง "CODA" ส่วนรางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Drive My Car" จากประเทศญี่ปุ่น รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังหนังเรื่อง "Belfast" รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "CODA" รางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยมตกเป็นของ "โจ วอล์คเกอร์" (Joe Walker) จากหนังเรื่อง "Dune" ส่วนรางวัลภาพยนตร์สารคดีขนาดยาวยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Summer of Soul" ของผู้กำกับ Questlove
"ทรอย คอทเซอร์"
Photo Credit Website : Yahoo
"Drive My Car"
Photo Credit Website : ABC News
ในบางปีงานออสการ์จะต้องมีเหตุการณ์ที่สร้างความงุนงงและตกตะลึงให้กับผู้ชม เช่นเดียวกับในปีนี้ที่อยู่ วิล สมิธ" (Will Smith) ก็เดินปรี่เข้าไปตบปากของ "คริส ร็อค" (Chris Rock) ที่เล่นมุกตลกล้อเลียนทรงผมของ "เจดา" (Jada) ภรรยาของเขา ซึ่งการตบถือว่าค่อนข้างแรง โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นการทำร้ายร่างกายกันเป็นครั้งแรกบนเวทีออสการ์เลยก็ว่าได้ ในส่วนของรางวัลที่ประกาศกันในสาขาท้ายๆก็มีอาทิรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมตกเป็นของเพลง "No Time To Die" ส่วนรางวัลสำคัญอย่างนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่ตกเป็นของ "วิล สมิธ" จากหนังเรื่อง King Richard โดย "วิล สมิธ" ได้กล่าวคำขอโทษทั้งน้ำตากับทาง "Academy" ที่ได้ก่อความรุนแรงบนเวทีมอบรางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น นอกจากนี้เขาก็ยังพูดถึง "ริชาร์ค วิลเลียมส์" (Richard Williams) คุณพ่อหัวใจแกร่งที่ฝึก "เซลีนา" (Selena) และ "วีนัส วิลเลียมส์" (Venus Williams) จนกลายเป็นนักเทนนิสระดับโลกในหนังเรื่อง "King Richard" ด้วยว่า "ริชาร์ด" เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องปกป้องครอบครัว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาหมายถึงตัวเองที่ต้องปกป้องศักดิ์ศรีภรรยาของเขา แต่ "วิล สมิธ" ก็รู้สึกผิดและสำนึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นขาดความยั้งคิดและเขาได้กล่าวคำขอบคุณ "เดนเซล วอชิงตัน" (Denzel Washington) ด้วยที่มาบอกกับเขาว่า “ในช่วงเวลาที่คุณอยู่ในจุดสูงสุด จงระมัดระวังให้ดี เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ปีศาจจะเข้ามาครอบงำตัวตนของคุณได้” โดยล่าสุดทาง "Academy" ได้ทวิตข้อความไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งการการใช้กำลังของ "วิล สมิธ"
Photo Credit Website : Sky News
Photo Credit Website : Sky News
ทวิตต่อต้านความรุนแรงของทาง "Academy"
Photo Credit : Twitter Academy
รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมตกเป็นของ "เจน แคมเปียน" (Jane Campion) จากหนังเรื่อง "The Power of the Dog" รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของ "เจสสิกา เชสเทน" (Jessica Chastain) จากหนังเรื่อง "The Eyes of Tammy Faye" ส่วนรางวัลใหญ่สุดของงานตกเป็นของหนังเรื่อง "CODA" ซึ่งถือเป็นชัยชนะของหนังฟอร์มเล็กอีกครั้งบนเวทีออสการ์ โดยงานออสการ์ครั้งที่ 94 หนังเรื่อง "Dune" กวาดรางวัลไปครองได้สูงสุด 6 สาขา รองลงมาคือเรื่อง "CODA" ที่คว้ารางวัลไปครองได้ 3 สาขา
"เจน แคมเปียน"
Photo Credit Website : Newshub
"เจสสิกา เชสเทน"
Photo Credit Website : People
"ทีมผู้สร้างและนักแสดงหนัง CODA"
Photo Credit Website : NPR
Photo Credit Website : NPR, The Movie Database
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand