“Scooter Braun” เสียใจที่ซื้อลิขสิทธิ์เพลงของ “Taylor Swift”

  Scooter Braun นักธุรกิจ และผู้จัดการของศิลปินดังมากมาย ให้สัมภาษณ์กับ NPR  Podcasts   ของ Jay Williams  สารภาพว่าเขารู้สึกเสียใจในการซื้อลิขสิทธิ์เพลงของนักร้องสาว Taylor Swift ในปี 2019 ที่ทำให้เกิดเป็นกรณีพิพาทระดับโลก  โดยอันเกิดจากการที่เขาซื้อบริษัท Big Machine Records ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในต้นฉบับเพลงของ Taylor Swift จำนวน 6 อัลบั้ม และทำให้นักร้องดังไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากเธอและ Scooter Braun มีประเด็นที่เคืองใจกันอยู่จากพฤติกรรมหลายอย่างที่ทาง Taylor Swift อ้างว่า Scooter Braun และผู้เกี่ยวข้องกับเขา ได้กลั่นแกล้งเธอในหลาย ๆ รูปแบบ จนเธอไม่อาจจะร่วมงานกับเขาได้ (อ่าน บล็อกของ Taylor Swift)  และตัดสินใจอัดอัลบั้มเพลงของเธอใหม่ทั้งหมด โดยตอนนี้ออกมาแล้ว 2 อัลบั้มคือ Fearless (Taylor's Version) และ Red (Taylor's Version) และได้รับการตอบรับอย่างงดงาม  

ภาพจาก Instagram @scooterbraun / @taylorswift

 ภาพจาก @taylorswift  

  Scooter Braun เผยว่าเหตุการณ์นั้นเป็นความผิดพลาดทางการสื่อสาร เนื่องจากระหว่างที่เขาเจรจาซื้อ Big Machine Records เขาติดสัญญา NDA หรือ Non-disclosure Agreement   สัญญารักษาความลับ ที่ทำให้เขาไม่อาจแจ้งศิลปินใดก็ตามที่อยู่ในสังกัด Big Machine Records มาก่อนได้ว่าเขากำลังจะมาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์คนใหม่ และเขาได้รับบทเรียนครั้งสำคัญว่าเขามีความโอหังที่คิดเอาเองว่า  เมื่อทำสัญญาซื้อขายเสร็จสิ้นเขาจะมีโอกาสได้คุยกับศิลปินต่างๆ เพื่อแสดงเจตนาและความตั้งใจในการทำงาน แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าก็มีคนที่เขาไม่รู้จักด้วยเช่นกัน และไม่ใช่ทุกคนจะยินดีที่จะเจรจาด้วย 

ภาพจาก youtube NPR Podcasts  

 

Scooter Braun ขาย Big Machine Records ให้กับ HYBE  อีกบริษัทของเขาในไม่ถึงสองปีหลังจากนั้น เพื่อปรับปรุงการบริหารใหม่ และเขาเผยว่าเขาเรียนรู้จากความผิดพลาด เขานำหุ้น 50   ล้านหุ้นจากส่วนของเขา ไปมอบให้กับพนักงานและศิลปินในสังกัดของเขา เป็นการชดเชยและปรับปรุงการทำงาน ในศิลปินมีส่วนร่วมกับบริษัทโดยการเป็นหุ้นส่วน โดย Scooter Braun เผยว่าสามารถโทรไปหาศิลปินที่เขาร่วมงานอย่าง Justin Bieber, Ariana Grande, Demi Lovato และ J. Balvin เพื่อเป็นการยืนยันได้เลยว่า เขามีความตั้งใจจริงที่จะให้มีการเติบโตและเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต 

  Scooter Braun เผยว่าเขารู้ถึงกระแสโซเชียลมีเดีย ต่าง ๆ แต่เขาไม่โต้ตอบ เพราะเขาไม่รู้จักคนพวกนั้น สิ่งที่เขาทำคือเขาจะเรียนรู้จากการกระทำและเดินหน้าต่อไป สิ่งที่เขาใส่ใจ มีเพียงลูกสาวของเขาว่าเธอจะรับเรื่องราวนี้อย่างไรและทำให้เธอเข้าใจมากพอที่จะรู้ว่าอะไรจริงไม่จริง นอกเหนือจากนั้นเขาจะพยายามใช้ชีวิต และปฏิบัติตนกับคนอื่น ๆ  ให้ดีที่สุด