
สรุปข่าว
ออกมายอมรับแล้วว่าตนคือบุคคลที่ตำรวจไซเบอร์เตรียมออกหมายเรียกจริง สำหรับนักแสดงหนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ" และยังได้เผยอีกว่าตนนั้นเป็นเพียงผู้เสียหายเท่านั้น พร้อมย้ำชัดว่า "แค่ซื้อรถ แล้วเราโดนเขาหลอก" และได้อธิบายถึงสาเหตุที่ไปเชื่อมโยงว่าเรื่องราวเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนแล้ว เริ่มจากที่ไปซื้อรถจากรุ่นพี่ที่ไว้ใจกัน มูลค่าหลักล้านบาท แต่เมื่อไม่ได้รถ คนขายก็คืนเงินให้ ขณะที่ทะเบียนรถยังเป็นชื่อของตนตำรวจจึงติดต่อขอไปให้ปากคำข้อมูลของรถ และตนเองก็เข้าข่ายตกเป็นผู้เสียหาย และไม่ได้กังวลอะไรเพราะถูกหลอกให้ซื้อรถ...
ภาพจากTrue inside
ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค.2566) ความคืบหน้าจากกรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้แถลงผลการติดตามยึดรถยนต์หรูของผู้ครอบครองที่ต้องสงสัยว่า มีการสวมทะเบียนรถ หลังได้รับการร้องเรียนจากกรมการขนส่งทางบกว่า มีการลักลอบเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถในระบบถึง 65 คัน ตำรวจติดตามรถยนต์มาได้แล้ว 16 คัน โดยในวันที่ 7 สิงหาคม ตำรวจ สอท. นัดหารือวางแผนแนวทางขยายผลสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องขบวนการสวมทะเบียนรถยนต์
ภาพจากTrue inside
พลตำรวจตรี อำนาจ ไตรพจน์ ได้เปิดเผยว่าชุดทำงานได้มีการออกหมายเรียก "นายมาริโอ้" เข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฏาคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้มีการให้การเป็นลายลักษณ์อักษร เบื้องต้น ให้การว่าเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม เพื่อความชัดเจนจะต้องเรียกมาให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน
นอกจากนี้ ต้องสอบพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลที่สามที่ดาราหนุ่มอ้างว่า มีการติดต่อซื้อขายกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำมาดูด้วยว่ามีเจตนาว่า ซื้อโดยไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถไม่ถูกต้อง หรือรู้อยู่แล้วแต่ตั้งใจ จงใจซื้อ โดยยังไม่เชื่อในคำให้การทั้งหมดของนายมาริโอ้
ภาพจากIG:mario_mm38
ภาพจากTrue inside
ภาพจากTrue inside
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand