
สรุปข่าว
ขึ้นแท่นเป็นหนังวายที่โดนใจใครหลายๆ คนสำหรับ Your name engraved herein เป็นภาพยนตร์แนวรักของไต้หวัน โดยในเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวของสองหนุ่ม "ชาง เจีย ฮั่น" หรืออาฮั่น รับบทโดย "เอ็ดเวิร์ด เฉิน" และ "หวัง ป๋อ เต๋อ" หรือเบอร์ดี้ รับบทโดย "เจิง ชิน ฮัว" โดยทั้งคู่ตกหลุมรักกันท่ามกลางแรงกดดันจากครอบครัว พร้อมทั้งสังคมที่ยังไม่เข้าถึงการเปลี่ยนแปลงของการรักเพศเดียวกัน ซึ่งเส้นทางความรักของทั้งสองก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เกิดเป็นเรื่องราวก่อนที่ชะตาชีวิตจะกำหนดให้ความรักต้องจบลงและมีเหตุให้ต้องแยกทางกัน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่เข้าถึงใจหลายคน เรียกน้ำตาได้เป็นอย่างดี TNN ONLINE ขอวิเคราะห์เหตุผลที่ทำไม Your name engraved herein จับใจสายวาย
ภาพประกอบจาก IG : @chenhaosen802
นักแสดง
ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งฝีไม้ลายมือในการแสดง ที่หากใครได้ติดตามหนังเรื่องนี้จะสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติแบบขั้นสุด เรียกว่าเหมือนเรากำลังดูชีวิตของผู้ชายสองคนที่เกิดความสัมพันธ์ พร้อมทั้งสีหน้า การสื่อถึงอารมณ์ต่างๆ ของทั้ง "เอ็ดเวิร์ด เฉิน" และ "เจิง ชิน ฮัว" เป็นเคมีที่ลงตัว ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป ทำให้ตรงใจแฟนภาพยนตร์ได้ไม่ยาก พร้อมทั้งการที่ทั้งคู่กล้าเล่น ฉีกแนวไปในรูปแบบที่ไม่คำนึงถึงเรื่องเพศที่ในหลายประเทศอาจจะยังไม่เปิดกว้าง เพียงแค่ต้องการนำเสนอถึงเรื่องราวของ "ความรัก" คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ปัง
บทภาพยนตร์
ยังคงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เพราะบทเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กับนักแสดง ซึ่งภาพยนต์แนว LGBTQ+ สัญชาติไต้หวัน มีบทที่ดูเรียบง่าย เข้าถึงได้ เหมือนเรากำลังติดตามชีวิตของผู้ชายสองคน แม้ว่าจะมีในเรื่องของเพศที่เป็นตัวแปรสำคัญในความรักครั้งนี้ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็วางบทไว้อย่างลงตัว สามารถพาเราให้ดำดิ่งไปกับอารมณ์ของตัวละครได้อย่างครบสมบูรณ์ โดยปูเนื้อเรื่องความหลังเอาไว้มองให้เห็นถึงเหตุและผลที่ทั้งสองคนรักกัน
ภาพประกอบจาก IG : @jhtseng13
ภาพและแสงในภาพยนตร์
เรียกว่าต้องชื่นชมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับภาพในการถ่ายทอดออกมาได้เห็นถึงองค์รวมอย่างน่าประทับใจ พร้อมทั้งโลเคชั่นในประเทศไต้หวันที่นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่มีโลเคชั่น ฉายสวยๆ ให้แฟนๆ ได้ติดตาม ไม่แปลกที่จะขึ้นแท่นเป็นหนังที่ครองใจแฟนๆ
เพลงประกอบ
โดยในเรื่องจะมีเพลงประกอบชวนให้เราเคลิ้มตามไปกับบริบทของภาพยนตร์ เรียกว่ามาไม่บ่อย แต่เข้าเป้าในทุกๆ ครั้งที่มาเพลงเข้ามาแทรก ทำให้แฟนๆ หนังรู้สึกอินตามไปกับทั้งสองความสัมพันธ์ พร้อมทั้งยังได้เห็นเรื่องราวชีวิตของทั้งสองหนุ่ม ที่พัฒนาอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เข้ากับบรรยากาศในยุค 90 ที่ภาพยนตร์พยายามสื่อ
ภาพประกอบจาก IG : @chenhaosen802
นี่คงเป็น 4 ปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ปัง สามารถคว้ารางวัลในระดับโลกในหลายๆ รางวัล เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบในความสัมพันธ์ หรือเคยติดตามเรื่องราวของภาพยนตร์ชุดนี้ก็คงจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวของอะไรต่อนั้น แฟนๆ ต้องไม่พลาดที่จะติดตาม รับรองว่าไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand