“พัคแฮซู” เปิดใจถึงการรับบทที่เลวอย่างไร้ที่ติในซีรีส์ Karma

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เป็นศูนย์กลางของการดึงเหล่าคนบาปให้มาร่วมกันก็คือ คิมบอมจุน ที่รับบทโดย พัคแฮซู  

พัคแฮซู พูดถึงการรับบทบาทในเรื่องนี้ว่า  "ตอนแรกที่อ่านบท ผมยังจับภาพไม่ได้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่เมื่อได้คุยกับผู้กำกับ ผมถึงเข้าใจว่าเขาแทบจะเหมือนปีศาจตัวหนึ่ง ผมอยากรู้ว่าเขาจะก้าวไปไกลได้แค่ไหน"

Karma ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันศุก์ที่ผ่านมาแบบครบ 6 ตอน   และภายในวันอังคาร เรื่องนี้ก็ขึ้นอันดับ 1  ของ Netflix  6 ประเทศ รวมถึง เกาหลี อินโดนีเซีย และไทย และติดท็อป 4 ของโลก   

 เนื้อเรื่องถูกเล่าเป็นตอนๆ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของคนแต่ละคน ที่สุดท้ายกลับกลายว่าเชื่อมโยงกัน  โดยมี คิมบอมจุน ที่เชื่อมโยงพวกเขาทั้งหมดไว้ด้วยกัน

 


 “พัคแฮซู” เปิดใจถึงการรับบทที่เลวอย่างไร้ที่ติในซีรีส์ Karma

สรุปข่าว

พัคแฮซู รับบท มกกยอกนัม ในซีรีส์ Karma ของ Netflix ที่เล่าเรื่องชีวิตของคน 6 คนที่เชื่อมโยงกันผ่านการทำเรื่องไร้ศีลธรรม โดยซีรีส์ได้รับความนิยมสูงในหลายประเทศและได้รับคำชมจากการแสดงที่มีมิติ

ภาพจาก : Netflix

การแสดงของ พัคแฮซู ได้รับคำชมในด้านความซับซ้อน โดยเขาให้เครดิตกับบท ผู้กำกับ และนักแสดงคนอื่นๆ “ผมรู้สึกซาบซึ้งกับคำชมมาก แต่จริงๆ แล้ว เรื่องราวของเรามีพลังในตัวมันเองอยู่แล้ว และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการสร้างอี และเคมีที่ดีระหว่างนักแสดงทุกคน ที่ทำให้ตัวละครเปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวละครนี้มีมิติที่หลากหลาย และผมคิดว่าผู้ชมก็สัมผัสได้ถึงจุดนั้น"

พัคแฮซู ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของนักแสดงที่เล่นด้วยกันโดยกล่าวว่า 

"ตัวละครจะเปลี่ยนไปตามคนที่เขาอยู่ด้วย อย่างเมื่ออยู่กับ ชินมินอา ที่รับบทเป็นศัลยแพทย์จูยอนที่มีบุคลิกหนักแน่นแต่อ่อนโยน  เขาก็จะแสดงท่าทีถอยหนี แต่เมื่ออยู่กับตัวละคร 'หนุ่มแว่น' ของอีกวางซู ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มกกยอกนัม ก็จะดูเซ่อซ่ามากขึ้น"

พร้อมย้ำว่าบทนี้ทำให้เขาได้ทดลองข้ามขีดจำกัด  "เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นบทที่เปลี่ยนไปขนาดนี้ในเรื่องเดียว" เขากล่าว   "มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้สวมบทบาทของคนที่ไม่ยอมเดินตามกรอบและกล้าที่จะก้าวข้ามกฎต่างๆ"



พัคแฮซู เดบิวต์จากงานละครเวทีปี 2007 กับเรื่อง "Annapurna" และเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ปี 2017 "Prison Playbook" ก่อนจะก้าวสู่ระดับโลกในปี 2021 ด้วย "Squid Game" และยังคงทำงานกับ Netflix ต่อใน "Money Heist: Korea" (2022) และ "Narco-Saints" (2022) จนได้รับฉายาว่า ลูกรัก Netflix 

ซึ่งเขาเองก็พูดถึงประเด็นนี่ว่า "ผมไม่ได้ตั้งใจตามหาโปรเจกต์ของ Netflix นะ แต่บางทีเราก็เข้ากันได้ดี อาจเป็นเพราะโชคชะตา"

ที่มาข้อมูล : koreajoongangdaily

ที่มารูปภาพ : netflixkr

avatar

วชิรญาณ์ คล้ายทองคำ
พลอย