Deepfake เทคโนโลยีที่มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างวิดีโอ ภาพ หรือเสียงที่ ปลอมแปลงให้เหมือนของจริงมากจนแยกไม่ออก ปัจจุบันมีคนบางกลุ่มที่หยิบนำความรู้ส่งตรงนี้มาใช้ในทางที่ผิดโดยนำมาปลอมแปลงเป็นศิลปิน ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และทำลายชื่อเสียงได้
เมื่อไม่นานมานี้ HYBE ประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับตำรวจเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและเผยแพร่วิดีโอ Deepfake ปลอมแปลงใบหน้าศิลปินของบริษัท
ในวันที่ 11 เมษายน สำนักงานตำรวจภูมิภาคคยองกีเหนือ เปิดเผยว่า ได้จับตัวผู้ต้องหา 8 ราย ในข้อหาสร้างและเผยแพร่วิดีโอ Deepfake ปลอมแปลงใบหน้าศิลปิน HYBE ในจำนวนนี้มีคนที่สร้างห้องใน Telegram จำนวน 6 ถูกจับในข้อหาผลิตและเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอปลอม
สรุปข่าว
ภาพจาก : HYBE
ความสำเร็จในการจับกุมครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง HYBE และสำนักงานตำรวจ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม MOU เพื่อขจัดอาชญากรรม Deepfake โดย HYBE ได้ยื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิดีโอปลอมที่นำภาพหน้าศิลปินในสังกัดมาประกอบเข้ากับเนื้อหาไม่เหมาะสม ซึ่งตำรวจได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปสืบสวนจนสามารถระบุตัวผู้ต้องหาและดำเนินการจับกุมได้สำเร็จ
นอกจากนี้ การแจ้งเบาะแสจากแฟนคลับก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ตำรวจรับรู้และดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว โดย HYBE ได้จัดตั้ง "ศูนย์รับเรื่องการละเมิดสิทธิของศิลปิน" ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เพื่อให้แฟน ๆ สามารถรายงานพฤติกรรมละเมิดสิทธิได้โดยตรง
คิม โฮซึง ผู้บัญชาการตำรวจคยองกีเหนือ กล่าวว่า
“ปัจจุบันอาชญากรรม Deepfake ที่ใช้ภาพของคนดังอย่างผิดกฎหมายกำลังเพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ทำลายชีวิตประจำวันของเหยื่อ เราจะติดตามและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง”
ด้าน อีแจซัง ซีอีโอของ HYBE กล่าวเสริมว่า
“เราจะไม่ยอมความหรือไกล่เกลี่ยใด ๆ ต่ออาชญากรรมที่ละเมิดสิทธิในภาพลักษณ์และชื่อเสียงของศิลปิน เราจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด เราจะสอดส่องและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ”
วชิรญาณ์ คล้ายทองคำ
พลอย