สรุปคำจากปาก “มายด์ พัชรบุษย์” รู้สึกผิดขอโทษ "นางเอกดัง" ที่ไปข้องเกี่ยว "นักร้องหนุ่ม" โดยไม่ตรวจสอบข้อมูลก่อน

โดยประเด็นสำคัญที่สังคมสงสัยวันนี้ (17 เม.ย.)  "มายด์" ได้ออกมาพูดในมุมของตัวเอง โดยมีใจความสำคัญดังต่อไป 

- ยืนยัน หมดใจ และห่างกับเพชรตั้งแต่เดือน พ.ย.67 แต่ที่ต้องอยู่ เพื่อรักษาจิตใจ และเรื่องอะไรต่างๆ 

- บอกเลิกด้วยปัญหาที่สะสมกับแฟนหนุ่มเพชร แต่สุดท้ายยังให้โอกาสอยู่ และก็ขอให้โอกาสตัวเองด้วยเหมือนกัน สถานะตอนนี้มันก็อาจจะไม่ใช่แฟนแล้ว มันจบไปแล้ว

-ที่ยังส่งข้อความหาเพชรแบบแฟน เป็นแค่ความเคยชิน

ส่วนคำถามกรณีพบเจอกับนักร้องดังได้อย่างไร มายด์ สรุปได้ดังนี้ 

- เจอโตโน่ จากงานอีเว้นท์ ที่ร่วมกัน แล้ว แทคไอจีไป หลังจากนั้นก็คุยกันมาตลอด เรื่องงาน จนโตโน่ เรียกไปทำงานด้วย

-ยืนยันไม่ได้บริหารสเน่ห์ แค่ชอบทำงาน อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองในสายงานใหม่ 

-ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้นักร้องดัง  ทำให้ทุกอย่าง อยู่ด้วยกันเกือบ24 ชั่วโมง   

-ชอบทำงาน ชอบตัวเองเวลายุ่งๆ ปรึกษาเพชร และเพื่อนๆ ก่อนรับงาน 

-รู้ว่าโตโน่มีแฟนอยู่แล้ว  และก็รู้จักกับณิชาเคยเจอดาราสาวที่สนามฟุตบอล และเคยเจออยู่บ้านบ้างตอนไปรับไปส่งโตโน่   เห็นความสัมพันธ์ของคนสองคน รู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน 

เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับโตโน่เมื่อไหร่ ? 

- หลังจบวาเลนไทน์  เริ่มแปลกๆขึ้นเรื่อยๆ หน้าที่คือต้องจำในแบบที่นักร้องหนุ่มชอบหรือไม่ชอบอะไร  จากที่ต้องเทคแคร์ ด้วยหน้าที่ แต่โตโน่ เริ่มถามกลับ และเริ่มเทคแคร์มากขึ้น  แล้วโตโน่ก็บอกความในใจว่า"พี่ชอบหนู"  "ชอบมายด์จัง"   ตอนแรกคิดว่า ชอบว่าเราทำงานดี   แต่หลังมีส่งข้อความมาบอกว่าคิดถึง   แล้วก็เริ่มทรีตดีมากว่าคนอื่น ๆ เรื่อยๆ  ก็เลยถามเขาตรงๆ 

ได้บอกเพชรมั้ย ? 

-ไม่ได้บอก เพราะใจไม่ได้อยู่กับเพชร ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วที่เราบอกเลิกไปแต่เรายังไม่ได้มีใคร  ไม่ได้บอกพี่โน่ เพราะกลัวมีปัญหากับงาน เพราะเราคาราคาซังอยู่ งานกำลังดีมากๆ ก็ไม่อยากให้มันกระทบใครเลย 

-หวั่นไหว เจอกันเกือบทุกวัน ด้วยคำพูดที่เขาใช้กับเรา ใส่ใจรายละเอียดคอยเอาใจ เราไมได้รับอะไรแบบนี้มาสักพักแล้วเราก็เลยหวั่นไหว 

รู้มั้ยว่ามันทำลายชีวิตทุกคน?

-คิดค่ะ เคยคุยกับพี่โน่แล้ว พี่มีแฟนแล้วนะ  (จุดนี้หนุ่ม กรรชัย ขอโทษณิชา ว่าคำถามนี้อาจจะทำร้ายจิตใจณิชา) 

-พี่โน่เล่าเกี่ยวกับปัญหาให้ฟังเรื่อยๆ ทั้งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน เขาจะพูดอะไรก็ได้ แต่เคยมีที่เราอยู่ด้วยกันสามคน (โตโน่ มายด์ และเมย์ ผู้จัดการฯ)  อยู่ดีๆ พี่โน่ก็พูดขึ้นมาว่า พี่เมย์ ผมมีเรื่องจะปรึกษา แต่มันจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ ผมไม่ได้รักณิชาแล้ว ผมคิดกับณิชาแค่น้องสาว  ซึ่งหนูเชื่อเขาแบบสุดใจเลย เขาบอกว่าเขาโกหกไม่ได้ และพูดต่อหน้าพี่เมย์ หนูก็รู้สึกว่า ที่พี่โน่บอกหนู มันคือเรื่องจริง 

ไม่ยุติธรรมกับณิชาเลย? 

-เจอณิชาที่บ้าน ไม่กล้ามอง หลังจากที่เขาบอกชอบเราแล้ว  พี่โน่ขอโทษ ทีทำให้เจอณิชาแล้วรู้สึกไม่ได้ ไม่รู้ว่าณิชาอยู่ที่บ้าน หลังจากนั้น เขาก็มาบอกหนูว่า เขาคุยกับณิชาแล้ว ว่าขอห่างกับณิชา   แล้วพออีกวัน ณิชาก็โพสว่า ถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเองแล้ว หนูก็เชื่อว่า เค้าห่างกันแล้ว  

ทำไมถึงออกมาพูดอะไรแบบนี้? 

-ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทุกคนปกป้องเรา เราโดนด่า โดนคุกคาม เรื่องมันไปกันใหญ่ เราก็เลยออกมาพูดได้แล้ว 

คุณจะบอกว่าคุณเองก็โดนหลอก? 

-ตอนแรกหนูอินกับเค้ามาก แต่มีงานที่เค้าต้องให้สัมภาษณ์ แล้วเก็บอาการเก่ง ซึ่งเราก็หันไปคุยกับหลานเขา หลานเค้าบอกว่า อาโน่คือนักแสดง เราก็เริ่มคิดได้แล้วหรือว่า เราจะอินง่าย ที่ผ่านมา ไม่เคยขอถ่ายรูปเก็บไว้เลย ไม่อยากให้เขามีปัญหา 

คุณก็ไม่ได้บอกโน่ว่า คุณมีแฟนแล้ว?

-ในช่วงแรกไม่ได้บอก เพราะทุกคนจะรู้ว่าหนูโสด ใช่ค่ะ แล้วพอเราสนิทกันมากขึ้น หนูก็บอกเลยว่า เราคุยกับแฟนเก่า  บอกค่ะ บอกว่ามีแล้ว โสด แต่ยังคาราคาซัง ยังไม่ได้ขาด   ก็สำหรับเราเราโสด เค้าก็บอกงั้นมายด์ ไปเคลียร์ให้จบนะ 

เคยรู้สึกผิดมั้ย ?

แน่นอนคนแรกรู้สึกผิดและอยากขอโทษก็คือ ณิชา ที่มายด์ออกมามายด์อยากจะขอโทษณิชาและครอบครัวที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน ขอโทษ ครอบครัว ขอโทษเพชร ที่ไม่เคลียร์ ให้จบ แต่ยืนยันยังเป็นห่วง ขอโทษพ่อแม่และครอบครัวของตัวเอง ที่ต้องมาคอยตอบคำถามสังคม 

อยากบอกอะไรกับใครอีกมั้ย?

-กับโตโน่ ไม่ได้อยากรู้อะไรแล้ว  ไม่ต้องการพูดคุยแล้ว  กับเพชร ที่ผ่านมาเราทำดีมาตลอด ไม่เคยนอกใจ นี่สิ่งที่เราต้องได้รับจริงๆเหรอ แต่ได้คุยกันเค้า บอกทำไปเพราะอารมณ์ ซึ่งมันก็เป็นปัญหาแบบนี้มาตลอด ปัญหาเดิมๆ เป็นเพื่อนได้ยังหวังดี แต่เป็นคนไม่ทำผิดซ้ำสอง 

-ที่กล้ามาเปิดหน้า เพราะในโซเขียลเปิดหน้าหนูหมดแล้ว แต่หนูมาด้วยความจริงใจ คนรอบข้างเข้าใจหนูหมดแล้ว 

นี่คือคำสัมภาษณ์จากปากของ "มายด์" ที่ออกมาพูดจากมุมมองของตัวเอง  ส่วน "นักร้องหนุ่ม" จะมีท่าทีกับเรื่องนี้อย่างไร ก็ต้องต้องคอยติดตามกันต่อไป