การไลฟ์อาบน้ำโชว์ สิทธิหรือเสี่ยง? ดร.ตฤณห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา วิเคราะห์ “ขาดขอบเขต-เรียกร้องความสนใจ”

 การไลฟ์อาบน้ำโชว์ สิทธิหรือเสี่ยง? ดร.ตฤณห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา วิเคราะห์  “ขาดขอบเขต-เรียกร้องความสนใจ”

ล่าสุด ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร จากคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาวิเคราะห์พฤติกรรมดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงมิติทางจิตวิทยาและสังคมที่น่าจับตา

ใช้ร่างกายเป็น “ทุนทางสังคม” (Social Capital)

ดร.ตฤณห์ระบุว่า การแสดงออกผ่านร่างกายในลักษณะเชิงยั่วยวนหรือเปิดเผย อาจสะท้อนการนำร่างกายมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การเรียกยอดติดตาม ยอดไลก์ หรือแม้แต่รายได้จากแพลตฟอร์มดิจิทัล

บุคลิกภาพแบบ “หลงตัวเอง” และ “แสดงออกแรง”

ผู้ที่แสดงพฤติกรรมลักษณะนี้ อาจมีบุคลิกแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Traits) คือ ต้องการเป็นจุดสนใจสูง และประเมินคุณค่าตนเองผ่านสายตาผู้อื่น ขณะที่บุคลิกภาพแบบแสดงออกแรง (Histrionic Traits) มักแสดงพฤติกรรมที่เกินจริง ใช้อารมณ์ตัดสินใจ และใช้ภาพลักษณ์ทางเพศเพื่อควบคุมหรือสร้างอิทธิพลต่อผู้อื่น

พรมแดนส่วนตัวจางลง และพัฒนาการทางจิตใจไม่สมบูรณ์

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ การขาดขอบเขตระหว่าง “พื้นที่ส่วนตัว” กับ “พื้นที่สาธารณะ” ดร.ตฤณห์ระบุว่า พฤติกรรมเช่นนี้อาจสะท้อนพัฒนาการทางจิตใจที่ยังไม่สมบูรณ์ หรือการไม่เห็นคุณค่าของความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

แรงจูงใจเชิงเศรษฐกิจ และอุดมการณ์เสรีภาพทางร่างกาย

ในบางกรณี การกระทำเช่นนี้อาจไม่ได้เกิดจากลักษณะบุคลิกภาพโดยตรง แต่เกิดจากแรงจูงใจเรื่องรายได้ หรือแนวคิดแบบ “Body Positivity” ที่เชื่อในสิทธิการใช้ร่างกายแสดงออกอย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ต้องพิจารณาเจตนาและบริบทอย่างรอบด้าน

คำเตือนเชิงจิตวิทยาและสังคม

ดร.ตฤณห์ยังเตือนว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจนำมาซึ่งความเสี่ยง เช่น การคุกคามทางเพศ การถูกนำรูปไปใช้ในทางที่ผิด หรือการถูกบูลลี่ในโลกออนไลน์ พร้อมระบุว่าอาจมีรากฐานจากความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือความเหงา ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของการเรียกร้องความสนใจผ่านร่างกาย

ทั้งนี้ ดร.ตฤณห์ ได้เคยเตือนเบียร์มาก่อนหน้านี้ว่า ควรเข้ารับการจิตบำบัด เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือความเหงาที่ถูกแสดงออกในลักษณะยั่วยวน

สำหรับเบียร์ เดอะวอยซ์ เธอได้ออกมาเปิดเผยว่า รู้สึกแฮปปี้กับคอนเทนต์ที่ทำ เพราะตื่นเช้ามาพร้อมมีเงินเข้า 1 แสนบาทใน 1 วัน และมองว่าคอนเทนต์ที่ทำไม่ได้สร้างความเกลียดชังให้ใคร

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกในลักษณะนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสังคมไทย ถึงขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงออก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบุคคลและสังคมโดยรวม


สรุปข่าว

ล่าสุด ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร จากคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาวิเคราะห์พฤติกรรมดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงมิติทางจิตวิทยาและสังคมที่น่าจับตา

ใช้ร่างกายเป็น “ทุนทางสังคม” (Social Capital)

ดร.ตฤณห์ระบุว่า การแสดงออกผ่านร่างกายในลักษณะเชิงยั่วยวนหรือเปิดเผย อาจสะท้อนการนำร่างกายมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การเรียกยอดติดตาม ยอดไลก์ หรือแม้แต่รายได้จากแพลตฟอร์มดิจิทัล

บุคลิกภาพแบบ “หลงตัวเอง” และ “แสดงออกแรง”

ผู้ที่แสดงพฤติกรรมลักษณะนี้ อาจมีบุคลิกแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Traits) คือ ต้องการเป็นจุดสนใจสูง และประเมินคุณค่าตนเองผ่านสายตาผู้อื่น ขณะที่บุคลิกภาพแบบแสดงออกแรง (Histrionic Traits) มักแสดงพฤติกรรมที่เกินจริง ใช้อารมณ์ตัดสินใจ และใช้ภาพลักษณ์ทางเพศเพื่อควบคุมหรือสร้างอิทธิพลต่อผู้อื่น

พรมแดนส่วนตัวจางลง และพัฒนาการทางจิตใจไม่สมบูรณ์

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ การขาดขอบเขตระหว่าง “พื้นที่ส่วนตัว” กับ “พื้นที่สาธารณะ” ดร.ตฤณห์ระบุว่า พฤติกรรมเช่นนี้อาจสะท้อนพัฒนาการทางจิตใจที่ยังไม่สมบูรณ์ หรือการไม่เห็นคุณค่าของความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

แรงจูงใจเชิงเศรษฐกิจ และอุดมการณ์เสรีภาพทางร่างกาย

ในบางกรณี การกระทำเช่นนี้อาจไม่ได้เกิดจากลักษณะบุคลิกภาพโดยตรง แต่เกิดจากแรงจูงใจเรื่องรายได้ หรือแนวคิดแบบ “Body Positivity” ที่เชื่อในสิทธิการใช้ร่างกายแสดงออกอย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ต้องพิจารณาเจตนาและบริบทอย่างรอบด้าน

คำเตือนเชิงจิตวิทยาและสังคม

ดร.ตฤณห์ยังเตือนว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจนำมาซึ่งความเสี่ยง เช่น การคุกคามทางเพศ การถูกนำรูปไปใช้ในทางที่ผิด หรือการถูกบูลลี่ในโลกออนไลน์ พร้อมระบุว่าอาจมีรากฐานจากความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือความเหงา ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของการเรียกร้องความสนใจผ่านร่างกาย

ทั้งนี้ ดร.ตฤณห์ ได้เคยเตือนเบียร์มาก่อนหน้านี้ว่า ควรเข้ารับการจิตบำบัด เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือความเหงาที่ถูกแสดงออกในลักษณะยั่วยวน

สำหรับเบียร์ เดอะวอยซ์ เธอได้ออกมาเปิดเผยว่า รู้สึกแฮปปี้กับคอนเทนต์ที่ทำ เพราะตื่นเช้ามาพร้อมมีเงินเข้า 1 แสนบาทใน 1 วัน และมองว่าคอนเทนต์ที่ทำไม่ได้สร้างความเกลียดชังให้ใคร

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกในลักษณะนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสังคมไทย ถึงขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงออก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบุคคลและสังคมโดยรวม