Squid Game 3 จบไม่ประทับใจ สื่อต่างประเทศบางส่วนพากันวิจารณ์หนัก

Squid Game 3  จบไม่ประทับใจ สื่อต่างประเทศบางส่วนพากันวิจารณ์หนัก

แม้ว่า Squid Game ซีซั่น 3 จะเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ผู้ชมทั่วโลกเฝ้ารอมากที่สุด แต่หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เสียงตอบรับกลับไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากที่หลายๆ ฝ่ายพากันมองว่าซีซั่น 3 นี้ ขาดเสน่ห์ที่เคยมีในซีชั่นแรก โดยสื่อต่างประเทศได้วิจารณ์  Squid Game 3  ไว้หลายประเด็นดังนี้

ภาพจาก : Netflix

1.พล็อตซ้ำซาก  ตัวละครไม่พัฒนา

สำนัก New York Times ให้ความเห็นว่าเนื้อเรื่องในซีซั่นนี้แบนราบและคาดเดาได้ง่าย พร้อมชี้ว่าบทของตัวละคร จุนโฮ (รับบทโดย วีฮาจุน) เป็นเพียงพล็อตย่อยที่ไม่มีความหมายอะไรเลย ส่วนฉากของกลุ่ม VIP ที่เคยถูกทำให้ดูเป็นกลุ่มที่เต็มไปด้วยความลึกลับในซีซั่นก่อนๆ กลับกลายเป็นตัวตลกเหมือนการ์ตูนที่ไร้ความหมายไปเลย 

ด้าน Hollywood Reporter ให้ความเห็นว่าการเดินทางในซีซั่น 3 ขาดความน่าสนใจและไม่มีความลึกซึ้ง  พร้อมตำหนิว่าตัวละครใหม่ในภาคนี้ไม่มีมิติอะไรเลย และดูเหมือนเป็นแค่ตัวเล่นบนกระดานหมากรุก 

2. ความรุนแรงที่ไร้สาระ  

The Guardian จากอังกฤษกล่าวว่า  หากซีซั่น 2 และ 3 ถูกผสานเข้าด้วยกัน อาจเป็นซีรีส์ที่ดูมีอะไรมากกว่านี้แต่ตอนนี้กลับมีเพียงความรุนแรงที่เหมือนการทรมานอย่างไม่จบสิ้น พร้อมวิจารณ์ว่าประเด็นการเสียดสีสังคมที่เคยเด่นชัดในภาคแรกกลับค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงตัวละครที่ไร้ความสำนึก

3. บางส่วนยังมองในแง่บวก

แม้เสียงวิจารณ์จะรุนแรง แต่บางสื่ออย่าง Time Magazine ได้ชื่นชมการกลับมาของผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก ว่าได้ทวงคืนความดิบโหดที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ และยังลงความเห็นว่าซีซั่นนี้สามารถสะท้อนสังคมในประเด็นเรื่องการให้คุณค่ากับเงินมากกว่าความเป็นมนุษย์  ที่ดึงผู้ชมให้มาร่วมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ขณะที่ IndieWire ก็ให้คำชมด้านการแสดงว่ามีความหนักแน่น และสะท้อนอารมณ์ได้ดี แม้ว่าชะตากรรมของตัวละครจะเป็นเรื่องที่พอเดาได้  

 


สรุปข่าว

Squid Game 3 ถูกวิจารณ์สื่อต่างประเทศวิจารณ์หนักว่าพล็อตซ้ำซาก ตัวละครไร้มิติ และเน้นความรุนแรงมากกว่า แม้เสียงตอบรับจะลดลง แต่ยังครองความนิยมสูงด้วยยอดชมทะลุ 3.5 พันล้านชั่วโมงบน Netflix

แม้ว่า Squid Game ซีซั่น 3 จะเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ผู้ชมทั่วโลกเฝ้ารอมากที่สุด แต่หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เสียงตอบรับกลับไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากที่หลายๆ ฝ่ายพากันมองว่าซีซั่น 3 นี้ ขาดเสน่ห์ที่เคยมีในซีชั่นแรก โดยสื่อต่างประเทศได้วิจารณ์  Squid Game 3  ไว้หลายประเด็นดังนี้

ภาพจาก : Netflix

1.พล็อตซ้ำซาก  ตัวละครไม่พัฒนา

สำนัก New York Times ให้ความเห็นว่าเนื้อเรื่องในซีซั่นนี้แบนราบและคาดเดาได้ง่าย พร้อมชี้ว่าบทของตัวละคร จุนโฮ (รับบทโดย วีฮาจุน) เป็นเพียงพล็อตย่อยที่ไม่มีความหมายอะไรเลย ส่วนฉากของกลุ่ม VIP ที่เคยถูกทำให้ดูเป็นกลุ่มที่เต็มไปด้วยความลึกลับในซีซั่นก่อนๆ กลับกลายเป็นตัวตลกเหมือนการ์ตูนที่ไร้ความหมายไปเลย 

ด้าน Hollywood Reporter ให้ความเห็นว่าการเดินทางในซีซั่น 3 ขาดความน่าสนใจและไม่มีความลึกซึ้ง  พร้อมตำหนิว่าตัวละครใหม่ในภาคนี้ไม่มีมิติอะไรเลย และดูเหมือนเป็นแค่ตัวเล่นบนกระดานหมากรุก 

2. ความรุนแรงที่ไร้สาระ  

The Guardian จากอังกฤษกล่าวว่า  หากซีซั่น 2 และ 3 ถูกผสานเข้าด้วยกัน อาจเป็นซีรีส์ที่ดูมีอะไรมากกว่านี้แต่ตอนนี้กลับมีเพียงความรุนแรงที่เหมือนการทรมานอย่างไม่จบสิ้น พร้อมวิจารณ์ว่าประเด็นการเสียดสีสังคมที่เคยเด่นชัดในภาคแรกกลับค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงตัวละครที่ไร้ความสำนึก

3. บางส่วนยังมองในแง่บวก

แม้เสียงวิจารณ์จะรุนแรง แต่บางสื่ออย่าง Time Magazine ได้ชื่นชมการกลับมาของผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก ว่าได้ทวงคืนความดิบโหดที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ และยังลงความเห็นว่าซีซั่นนี้สามารถสะท้อนสังคมในประเด็นเรื่องการให้คุณค่ากับเงินมากกว่าความเป็นมนุษย์  ที่ดึงผู้ชมให้มาร่วมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ขณะที่ IndieWire ก็ให้คำชมด้านการแสดงว่ามีความหนักแน่น และสะท้อนอารมณ์ได้ดี แม้ว่าชะตากรรมของตัวละครจะเป็นเรื่องที่พอเดาได้  

 


ปัจจุบันนี้   Squid Game 3 ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์ในเว็บ  Rotten Tomatoes นั้นสูงถึง 81% แต่คะแนนจากผู้ชมกลับร่วงต่ำเหลือเพียง 51% สะท้อนให้เห็นถึงความพอใจที่ลดลงเมื่อเทียบกับซีซั่น 1 ที่เคยทำไว้ที่ 95% จากนักวิจารณ์ และ 83% จากผู้ชม 

 Squid Game ซีซั่น 3 ยังคงกำกับและเขียนบทโดย ฮวังดงฮยอก พร้อมทีมนักแสดงนำอย่าง อีจองแจ, อีบยองฮอน, วีฮาจุน และเพิ่มเติมนักแสดงแถวหน้าหลายคน เช่น อิมชีวอน และ พัคกยูยอง

แม้เสียงตอบรับจะแตกต่างจากภาคแรกอย่างชัดเจน แต่ยังคงได้รับความนิยมทั่วโลก  ด้วยยอดรับชมรวมกันทุกซีซั่น ทะลุ 3.5 พันล้านชั่วโมงบน Netflix และยังครองแชมป์ซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Netflix 

ที่มาข้อมูล : Netflix , mk.co.kr

ที่มารูปภาพ : Netflix