รู้จักภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ โรคที่ต้องหาม "ปั๊บ โปเตโต้" ส่งโรงพยาบาล

รู้จักภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ โรคที่ต้องหาม "ปั๊บ โปเตโต้" ส่งโรงพยาบาล

หากพูดถึงภาวะโซเดียมสูง หลายคนอาจนึกถึงอันตรายจากการบริโภคเค็มจัด แต่ในทางกลับกัน ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่อันตรายไม่แพ้กัน และอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้โดยไม่รู้ตัว

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำคืออะไร?

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ (ต่ำกว่า 135 mEq/L) ซึ่งโซเดียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทในการควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงการควบคุมความดันโลหิต เมื่อระดับโซเดียมต่ำลงจะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายบวม ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมอง


สาเหตุที่ทำให้โซเดียมต่ำ

ภาวะนี้ไม่ได้เกิดจากการกินเค็มน้อย แต่เกิดจากสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

การดื่มน้ำมากเกินไป: โดยเฉพาะในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ร่างกายมีน้ำมากเกินไปและเจือจางปริมาณโซเดียมในเลือด

การเสียเหงื่อมากเกินไป: นักกีฬาที่ออกกำลังกายหนักๆ และดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียวโดยไม่เติมเกลือแร่ อาจทำให้โซเดียมถูกขับออกไปพร้อมกับเหงื่อ

โรคประจำตัวบางชนิด: เช่น โรคไตวาย โรคตับแข็ง ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือกลุ่มอาการหลั่งฮอร์โมนต้านปัสสาวะไม่เหมาะสม (SIADH)

การใช้ยาบางประเภท: เช่น ยาขับปัสสาวะ หรือยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า


สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต

อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง ควรสังเกตอาการเหล่านี้:

อาการเบื้องต้น: คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

อาการที่รุนแรงขึ้น: สับสน มึนงง ชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว หรือแม้กระทั่งโคม่า

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับการดื่มน้ำในปริมาณมาก หรือออกกำลังกายอย่างหนัก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวัดระดับโซเดียมในเลือด


การป้องกันและรักษา

การป้องกันสามารถทำได้โดย:

ดื่มน้ำอย่างเหมาะสม: ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

เติมเกลือแร่หลังออกกำลังกายหนัก: สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่เสียเหงื่อมาก ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่แทนน้ำเปล่า

ปรึกษาแพทย์: หากมีโรคประจำตัวหรือต้องใช้ยาที่อาจส่งผลกระทบต่อระดับโซเดียม

สำหรับการรักษา แพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรงของอาการ หากอาการไม่รุนแรงอาจใช้วิธีจำกัดปริมาณน้ำที่ดื่ม หรือให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ แต่หากอาการรุนแรงมากจนมีผลต่อสมอง แพทย์จะให้การรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มระดับโซเดียมอย่างช้าๆ และปลอดภัยที่สุด

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม หากเราเข้าใจสาเหตุและสัญญาณเตือน ก็จะสามารถป้องกันและรับมือได้อย่างทันท่วงที ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและปลอดภัยจากภัยเงียบนี้

สรุปข่าว

หากพูดถึงภาวะโซเดียมสูง หลายคนอาจนึกถึงอันตรายจากการบริโภคเค็มจัด แต่ในทางกลับกัน ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่อันตรายไม่แพ้กัน และอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้โดยไม่รู้ตัว

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำคืออะไร?

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ (ต่ำกว่า 135 mEq/L) ซึ่งโซเดียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทในการควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงการควบคุมความดันโลหิต เมื่อระดับโซเดียมต่ำลงจะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายบวม ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมอง


สาเหตุที่ทำให้โซเดียมต่ำ

ภาวะนี้ไม่ได้เกิดจากการกินเค็มน้อย แต่เกิดจากสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

การดื่มน้ำมากเกินไป: โดยเฉพาะในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ร่างกายมีน้ำมากเกินไปและเจือจางปริมาณโซเดียมในเลือด

การเสียเหงื่อมากเกินไป: นักกีฬาที่ออกกำลังกายหนักๆ และดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียวโดยไม่เติมเกลือแร่ อาจทำให้โซเดียมถูกขับออกไปพร้อมกับเหงื่อ

โรคประจำตัวบางชนิด: เช่น โรคไตวาย โรคตับแข็ง ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือกลุ่มอาการหลั่งฮอร์โมนต้านปัสสาวะไม่เหมาะสม (SIADH)

การใช้ยาบางประเภท: เช่น ยาขับปัสสาวะ หรือยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า


สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต

อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง ควรสังเกตอาการเหล่านี้:

อาการเบื้องต้น: คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

อาการที่รุนแรงขึ้น: สับสน มึนงง ชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว หรือแม้กระทั่งโคม่า

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับการดื่มน้ำในปริมาณมาก หรือออกกำลังกายอย่างหนัก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวัดระดับโซเดียมในเลือด


การป้องกันและรักษา

การป้องกันสามารถทำได้โดย:

ดื่มน้ำอย่างเหมาะสม: ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

เติมเกลือแร่หลังออกกำลังกายหนัก: สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่เสียเหงื่อมาก ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่แทนน้ำเปล่า

ปรึกษาแพทย์: หากมีโรคประจำตัวหรือต้องใช้ยาที่อาจส่งผลกระทบต่อระดับโซเดียม

สำหรับการรักษา แพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรงของอาการ หากอาการไม่รุนแรงอาจใช้วิธีจำกัดปริมาณน้ำที่ดื่ม หรือให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ แต่หากอาการรุนแรงมากจนมีผลต่อสมอง แพทย์จะให้การรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มระดับโซเดียมอย่างช้าๆ และปลอดภัยที่สุด

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม หากเราเข้าใจสาเหตุและสัญญาณเตือน ก็จะสามารถป้องกันและรับมือได้อย่างทันท่วงที ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและปลอดภัยจากภัยเงียบนี้

ที่มาข้อมูล : เพจ : Potato

ที่มารูปภาพ : เพจ : Potato