ผิดคาด! "มู่หลาน" เปิดตัวในจีนทำรายได้เพียง 700 กว่าล้าน

วันนี้( 14 ก.ย.63) “วอลท์ ดิสนีย์” บริษัทสื่อและธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เปิดเผยว่า "มู่หลาน" ภาพยนตร์รีเมคฉบับคนแสดง สามารถทำเงินได้เพียง 23.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 726 ล้านบาท) ในศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่น้อยกว่าภาพยนตร์เรื่อง Tenet ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เปิดตัวในจีนเมื่อสัปดาห์ก่อนเสียอีก

ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์ เคยคาดการณ์ว่า มู่หลานจะได้รับกระแสตอบรับอย่างดีในจีน คล้ายคลึงกับภาพยนตร์เจ้าหญิงเรื่องอื่นๆ อย่าง ซินเดอเรลลา (Cinderella) และ มาเลฟิเซนต์ (Maleficent) แต่มู่หลานกลับทำรายได้น้อยกว่าภาพยนตร์เรื่อง "เดอะ ไลออน คิง" ที่เปิดตัวในจีนไปเมื่อปีที่แล้ว (2562) และกวาดรายได้ไปเกือบ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปเกือบครึ่ง

ขณะที่ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า เหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่อง มู่หลาน ซึ่งมีต้นทุนในการสร้างสูงกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ประสบความสำเร็จในจีนมาจากปัจจัย และหนึ่งในนั้นคือ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่ง ทางดิสนีย์คาดการณ์ว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์ในจีนเปิดให้บริการประมาณ 91% ซึ่งในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่มีเข้าชมเพียง 50% เท่านั้น

ส่วนในช่องทางออนไลน์ทั่วโลก "มู่หลาน" ยังได้รับการวิพากวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากในเครดิตตอนท้ายของภาพยนตร์ ดิสนีย์ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งเชื่อกันว่ามีประชาชนถูกควบคุมตัวประมาณ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์

อย่างไรก็ดี ดิสนีย์ ยังไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับยอดขายมู่หลานผ่านดิสนีย์พลัส หรือบริการสตรีมมิ่งของบริษัท แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คริสทีน แมคคาร์ธีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของดิสนีย์ ระบุว่า บริษัทจะเปิดเผยผลดำเนินการของมู่หลาย ในรายผลประกอบการไตรมาสหน้าที่จะเปิดเผยในเดือนพฤศจิกายนนี้

เกาะติดข่าวที่นี่