
สรุปข่าว
หลังอดีตนักร้องสาว "มีล่า จามิล่า" หรือ "มีล่า Kamikaze" เจ้าของเพลงฮิต "ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ" ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนถูกพฤติกรรมของน้องชายแท้ๆ ที่ทำร้ายตนเองปางตาย ด้วยการถูกมีดแทงเข้าที่ศรีษะ จนเกือบจะตาบอด เมื่อ 2 ปีก่อน
ซึ่ง มีล่า ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ที่ออกมาโพสต์ไม่ใช่ต้องการสร้างกระแส แต่เพราะทนไม่ไหวที่ต้องอยู่แบบหวาดระแวง กลัวว่าน้องชายจะมาทำร้ายอีก พร้อมวอนสังคมให้หยุดด่าคุณแม่ เพราะตอนนี้ครอบครัวก็กำลังเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตนก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆถึงต้องออกมาโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมฝากถึงน้องชายว่า ถ้าอยากใช้ชีวิตแบบปกติก็ต้องออกมายอมรับความผิดที่ตนเองได้กระทำ เพราะตอนนี้ครอบครัวพังแล้ว ถ้าอยากจบปัญหาก็ออกมาแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องดำเนินคดีกำลังปรึกษากับแฟน และทนาย ว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง



ล่าสุด เจนนี่ พี่สาวแท้ๆ ของสาว มีล่า ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านไอจีส่วนตัวประมาณว่า
"เจนนี่ขอโทษที่ออกมาพูดช้า เพราะทันทีที่ข่าวนี้ออกมา ต้องดูความรู้สึกคุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ก่อนค่ะ เจนนี่ เลยจำเป็นต้องใช้เวลาจัดการเรื่องในครอบครัว ก่อนที่จะมีโอกาสได้มาเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดมาเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้"
"อยากจะขอความกรุณาหยุดโจมตีคุณแม่นะคะ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก ลูกเจ็บ ลูกทะเลาะกัน คนเป็นแม่เจ็บยิ่งกว่า ลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน แต่เรื่องที่ทุกคนได้ฟัง และตีความกันไปเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องทั้งหมดเท่านั้น พอน้องสาวได้ออกมาชี้แจงแบบนั้น ทำให้แม่ถูกคนอื่นด่า มันเจ็บปวดมากเลยค่ะ"
"เรื่องเกิดมา 2 ปี ทำไมเพิ่งมาออกมาพูด ต้องการอะไรกันแน่ เจนนี่โดนถล่ม เจนนี่ยอมรับได้ แต่ถ้าแม่โดนตำหนิ โดนถล่ม ทั้งที่ ไม่ใช่เรื่องจริง เจนนี่รับไม่ได้จริงๆ ปกติแม่จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับร้องไห้อยู่เรื่อยๆ กราบขอเวลาทุกคนอ่านความจริงฝั่งของเจนนี่บ้างนะคะ"

นอกจากนี้ยังได้โพสต์ถึงเรื่อง ความสัมพันธ์ของพวกเราพี่น้อง ประมาณว่า
"เรา 3 คนพี่น้องอาศัยอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เกิด ช่วง 10 ปีหลัง ทั้งน้องสาว และน้องชายมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ตลอด ทั้งคู่ต่างรุนแรงใส่กัน ทั้งคู่มีการใช้อาวุธข่มขู่กันทั้งสองฝ่าย เจนนี่ และแม่ซึ่งอยู่ในฐานะคนกลางมีความลำบากใจมาโดยตลอด ตอนที่น้องสาวอยู่บ้านจะส่งน้องชายไปต่างจังหวัด แล้วตอนน้องสาวกลับต่างประเทศถึงจะให้น้องชายกลับมาอยู่บ้าน เพื่อปกป้องจิตใจของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นไม่นานน้องชายก็เริ่มป่วยเป็นซึมเศร้า แม่ และเจนนี่เลยพาน้องไปรักษาอาการซึมเศร้า และพยายามหาวิธีที่จะทำให้เขาดีขึ้น พอเริ่มอาการดีขึ้น ทุกคนจึงกลับมาอยู่บ้านด้วยกันอีกครั้ง"

เรื่องราวในวันเกิดเหตุ 1
"ในวันนั้นแม่ไปต่างจังหวัด ที่บ้านเลยจะมีแค่น้องชายนอนอยู่ชั้น 2 และพี่สาวทั้งสอง แยกห้องนอนกันอยู่ชั้น 3 ตอนเวลาประมาณตี 4 เจนนี่ สะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงร้อง รีบวิ่งเข้าไปดูในห้อง น้องสาว แล้วสิ่งที่เจอ คือน้องสาวนอนอยู่ในสภาพถูกทำร้ายหนักมาก"
"ส่วนน้องชายยืนขาดสติ และโมโหอย่างฉุนเฉียว เจนนี่ ตกใจมากๆ แต่ต้องตั้งสติ รีบวิ่งเข้าไปขวาง และพูดให้น้องชายได้สติใจเย็นลง จับแยกให้ไปอยู่อีกห้อง มีล่า สู้จนหมดแรงแต่ก็ยังพยายามฝืนตัวเอง เจนนี่ รีบโทรหาตำรวจเป็นสิ่งแรก ต่อด้วยหารถจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อที่จะให้มาถึงเร็วที่สุด"

เรื่องราวในวันเกิดเหตุ 2
"พอไปถึงโรงพัก ตำรวจถามว่าน้องเคยรับการรักษาทางจิตไหม ดูน้องมีความผิดปกตินะ เราก็เลยตอบไปตามตรงว่าเคยรับการรักษาอยู่ที่ศรีธัญญาค่ะ ตำรวจจึงพิจารณาว่า ในกรณีแบบนี้ต้องทำใบส่งตัวไปที่ศรีธัญญา ในฐานะพี่สาว และประชาชนที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ในเมื่อตำรวจแนะนำมาแบบนี้เราก็ทำตาม ตำรวจนำส่งที่โรงพยาบาล และน้องชายก็ได้ถูกแอดมิดเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาน้องสาวก็สามารถย้ายไปที่โรงพยาบาลใหม่ที่มีคุณหมอที่เก่งมากๆ ระดับประเทศ ช่วยผ่าตัดให้ภายในวันนั้นเลย"
"หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจนนี่ได้ถามน้องชายว่าทำไมถึงทำแบบนี้ น้องตอบว่า น้องไม่อยากอยู่แล้ว..และวางแผนที่จะฆ่าตัวตาย เตรียมอุปกรณ์ไว้ในห้อง และออกไปซื้อสุรามาดื่มย้อมใจก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย เมื่อขาดสติก็มีความคิดขึ้นมาในหัวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เขาเป็นแบบนี้เขาคิดว่าเพราะ มีล่า เขาเลยตัดสินใจทำแบบนั้น"

เหตุการณ์ 2 ปีหลังจากนั้น
"ตอนนี้เจนนี่ และแม่โดนกระแสหนักมากว่าทำไมสองปีที่ผ่านมาเราไม่เคยทำอะไรเลย แต่จริงๆ แล้วเราทำมาโดยตลอดไม่เคยนิ่งเฉยเลยค่ะ สำหรับมีล่าหลังจากที่น้องเข้ารับการรักษาบาดแผลภายนอกเสร็จสิ้นแล้ว แต่น้องก็ยังอยู่ในขั้นตอนการรักษา และดูแลโดยจิตแพทย์"
"หาที่อยู่ใหม่ให้ มีล่า เป็นทางออกที่ดีที่สุด เป็นคอนโดที่อยู่ใกล้ โรงพยาบาล และที่ทำงานเดิมที่สุด ซึ่งมีล่าเองก็เต็มใจ และเห็นด้วย ที่ผ่านมาแม้น้องสาวจะย้ายออกไป แต่แม่ก็เข้าไปดูแลเต็มที่ที่สุดเท่าที่คุณแม่จะทำให้ได้"
"ส่วนน้องชายหลังจากรักษาตัวที่ศรีธัญญาอยู่ 2 เดือนกว่า หมอก็ตัดสินใจต้องปล่อยตัวน้อง ด้วยอาการที่ดีขึ้นให้น้องออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง"
"เจนนี่ กับแม่ก็ยังต้องคอยพารักษาทุกอาทิตย์ เข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอด และทานยาอย่างสม่ำเสมอ คุณหมอบอกว่าต้องให้น้องค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่สังคมให้ได้ต่อไป"

"ที่ผ่านมาสิ่งที่น้องสาวร้องขอคือ ที่อยู่ของน้องชาย ไม่ได้มีการพูดถึงการขึ้นศาลอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากต้องไปในทางนั้นจริงๆ เราเองก็ยินดี แต่เราไม่สามารถให้ข้อมูลนี้กับน้องสาวได้ ได้เพียงบอกแค่ว่าน้องชายกำลังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบำบัดจิต แต่ถ้าน้องสาวยืนยันจะฟ้องแ ละขึ้นศาลเพื่อรับความเป็นธรรมเราก็ยินดีทำตามขั้นตอนไม่เคยห้าม เพียงแต่เราในฐานะพี่สาวเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการให้ทั้งสองฝั่งได้รับการรักษาทั้งกาย และใจก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าการตัดสินใจแบบนั้นมันผิดต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ"

"สำหรับเรื่องทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เจนนี่ ยินดีหากจะมีการตรวจสอบหลักฐานและเอกสารต่างๆ"
"สุดท้ายเจนนี่ขอความเห็นใจสังคมด้วย เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องภายในครอบครัว อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งรีบตัดสิน อย่าเพิ่งวิจารณ์ อย่าเพิ่งด่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวมันรุนแรงมากๆ และไม่มีอะไรที่จะมาชดเชยได้เลย"
"น้องชายผิดเต็มๆ ไม่มีใครปกป้องได้ ว่ากันตามกฎหมาย และเจนนี่เข้าใจในความรู้สึกโกรธของทุกคนมากๆ แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ตามข่าว ครอบครัวเราผ่านอะไรมาบ้าง เราได้พยายามทำการรักษาน้องชายแล้ว"


"หลังเหตุการณ์รุนแรงเราก็พยายามรักษาสถานะภาพครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว แม่ และเจนนี่หาทางแก้ไขมาโดยตลอด ไม่เคยละเลยเลยจริง ๆ คงไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวทะเลาะกันเอง ขอความกรุณาเข้าใจครอบครัวของเราด้วยนะคะ"
"ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งให้มีล่าและดรอบครัวเรามากๆ สิ่งนี้มีค่ากับเรามากจริงๆ ค่ะขอบคุณค่ะ”




ขอบคุณภาพ IG milapanpinij,IG majanie_
- "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" 25 ปี ทำบุญวันเกิดพร้อมคุณพ่อ "สมรักษ์ คำสิงห์" แฟนคลับร่วมยินดี
- ประวัติ หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ นายแพทย์หนุ่มหล่อ ดีกรีนักร้องค่ายดัง
- "จ๊ะ นงผณี" อัปเดตอาการ "โรคแพนิค" ตอนนี้เหลือแค่กล้าขึ้นเครื่องบิน
- ขุนทอง อสุนี ตำนานนักร้องดังวัย71ปี ลาทางโลก เข้าพิธีอุปสมบทแล้ว
- กว่าจะเป็น "พลอย เฌอมาลย์" เปิดเส้นทาง 30 ปีในวงการบันเทิง ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กับผลงานระดับมาสเตอร์พีซ
- “ชาล็อต ออสติน” สุดภูมิใจ ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานประกาศรางวัลนาฏราชครั้งที่ 16
- กกต.ประณามเหตุ สจ.ทำร้าย ตร. หน้าหน่วยเลือกตั้ง
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand