"จิตวิทยาความรัก" การตกหลุมรักใครสักคน ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

"จิตวิทยาความรัก" การตกหลุมรักใครสักคน ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

สรุปข่าว

หลายคนบอกว่าความรักต้องใช้เวลา เพื่อศึกษานิสัยใจคอ ความชอบ ความคิด และทัศนคติ เพื่อที่ต่างฝ่ายต่างจะสามารถปรับจูนเข้าหากัน แล้วขยับความสัมพันธ์ไปตามแต่ละสเต็ป แล้วเคยสงสัยไหมว่า กว่าที่เราจะรักใครสักคนหนึ่ง มันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน กี่สัปดาห์ กี่เดือน หรือกี่ปีกันนะ

เว็บไซต์หาคู่จากสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า "eHarmony" เคยหาคำตอบในเรื่องนี้ โดยการทำงานวิจัย มันอาจจะฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์ไปสักหน่อย แต่พวกเขาอยากรู้ว่า สำหรับหนุ่มสาวที่มาเจอกันผ่านช่องทางที่พวกเขาออกแบบขึ้น จนกระทั่งตัดสินใจไปเดทกันนั้น ทั้งคู่ใช้เวลานานแค่ไหน จนกว่าจะตกหลุมรักและยอมบอกรักกัน 

ผลปรากฏว่า ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาที่ผู้ชายจะตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ใช้เวลา 88 วัน แต่สำหรับผู้หญิงใช้เวลานานถึง 134 วัน กว่าที่พวกเธอจะรู้สึกตกหลุมรักใครสักคน 


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 "Elite Single" เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์หาคู่ ที่อยากรู้ในสิ่งเดียวกัน จึงทำแบบสอบถามขึ้นมา โดยกำหนดหัวข้อเกี่ยวกับรักแรกพบ ผลออกมาว่า ผู้ชายเชื่อเรื่องรักแรกพบ มากถึง 72 เปอร์เซนต์ ส่วนผู้หญิงเชื่อเรื่องรักแรกพบ 61 เปอร์เซนต์ หมายความว่า ผู้ชายมีแนวโน้มจะตกหลุมรักได้เร็วกว่าผู้หญิง ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับงานวิจัยชิ้นแรก


ทำไมผู้ชายตกหลุมรักง่ายกว่าผู้หญิง? 


มีงานวิจัยที่ดีพิมพ์ลงในวารสารทางวิชาการ Social Psychology ทำการศึกษาเพื่อหาถึงที่มาว่าเพราะอะไรเพศชายจึงมีแนวโน้มที่จะตกหลุมรักได้เร็วและง่ายมากกว่าเพศหญิง โดยศึกษาจากตัวอย่างของนักเรียนในระดับมหาวิทยาลัย 172 คน 

 

ผลปรากฏว่า นักศึกษาชายส่วนใหญ่เป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักและสารภาพออกมาก่อนผู้หญิง ซึ่งผิดไปจากผลที่คาดคะแนไว้ในตอนแรก ที่คาดว่าผู้หญิงน่าจะตกหลุมรักได้ง่ายกว่า

 

เรเชล นีดเดล นักจิตวทยา อธิบายว่า เพราะผู้ชายใช้อารมณ์ความรู้สึกน้อยกว่า ในทางกลับกัน ผู้หญิงใช้เวลาครุ่นคิดและไตร่ตรองความรู้สึกที่เกิดขึ้น รวมถึงมักจะลังเล ก่อนที่จะพูดคำว่า “ฉันรักคุณ” ออกไปกับใครสักคน


ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้สึกรักกับสมองของคนเรา อธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไร?

ในทางประสาทวิทยา ความผูกพันธ์จากความรู้สึกว่ารู้จักกันในฐานะ “ความรัก” นั้นเกิดจากฮอร์โมน ออกซีโตซิน (oxytocin) และ วาโซเพรสซิน (vasopressin) ซึ่งกระตุ้น Reward System หรือ “ระบบการให้รางวัล" ของสมองของเรา สิ่งเหล่านี้ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการเข้าถึงสมอง และผลการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการมองดูคนที่คุณรักสามารถกระตุ้นบริเวณสมองเดียวกันที่สร้างความรู้สึกอิ่มเอิบใจได้

ฮอร์โมนเหล่านั้นไม่เพียงแค่กระตุ้น เมื่อคุณมีความรักเท่านั้น อาร์เธอร์ เอรอน นักจิตวิทยา ได้คิดค้นชุดคำถามที่จะช่วยเร่งกระบวนการนี้ และอาจช่วยให้คู่รักตกหลุมรักได้เร็ว เรียกว่า "36 คำถามที่นำไปสู่ความรัก" 

ผู้เข้าร่วมการตอบคำถาม คือ คน 2 คน ที่อยู่ในช่วงใจอ่อนแอ พวกเขามาจับเข่าคุยแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ซึ่งสามารถเพิ่มความสนิทสนมและอาจนำไปสู่ความรัก อีกนัยหนึ่งก็คือ ความรู้สึกเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ ก็สามารถกระตุ้นให้ฮอร์โมนพวกนี้ทำงานได้มากขึ้นทำให้ความรู้สึกว่าเรากำลังตกหลุมรัก ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และในเวลาต่อมา ชุดคำถามนี้ กลายมาเป็นวิธีที่เว็บไซต์ หรือแอปฯ หาคู่รักบางเจ้า นำไปใช้ เพื่อจับคู่ให้เหมาะสม 


อย่างไรก็ดี ในการศึกษาด้านจิตวิทยาและสมอง แม้มีการอธิบายถึงความรู้สึกตกหลุมตกหลุมรักที่มีความสัมพันธ์กับประสาทสมอง แต่ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่านั้น และการจะ “รัก” แต่ละคนใช้ปัจจัยมากมายที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพสังคม การใช้ชีวิต และลักษณะนิสัย แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไรและเมื่อไหร่ การตกหลุมรักใครสักคน ก็ทำให้หัวใจเราได้พองโต และมีความสุขได้เสมอ



ขอบคุณข้อมูลจาก newscientist / Daily Mail / Facebook: TNN Health



"... #ValentineWithTNNHEALTH เพจ TNN Health ขอเชิญร่วมสนุก 

คลิกที่นี่ ลุ้นรับรางวัล Gift Voucher มูลค่ารางวัลละ 500 บาท จาก Bangkok Natural Spa เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการเข้ารับบริการ ..." 



ติดตาม TNN Health ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่

Website : https://www.tnnthailand.com/

Youtube : https://bit.ly/TNNHealthYoutube

TikTok : https://bit.ly/TNNHealthTikTok

Line @TNNONLINE : https://lin.ee/4fP2tltIo

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://www.facebook.com/TNN16LIVE/

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

valentinewithtnnhealth
tnnhealth
happyvalentines
happyvalentinesday
love
ความรัก
ตกหลุมรัก