รู้คุณค่าทางอาหารของ "แซลมอน" พร้อมอันตรายที่จำเป็นต้องรู้

ปลาแซลมอนเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สามารถรับประทานได้ทั้งสุกและดิบ โดยปลาแซลมอนเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน กรดไขมันสูง และแร่ธาตุที่ทำเป็นต่อร่างกาย แต่การรับประทานปลาแซลมอน ก็มีเรื่องที่ควรระวังที่จำเป็นต้องรู้ไส้ก่อน เพื่อความปลอดภัย

1.บำรุงสุขภาพตา กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยปรับปรุงแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา และเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นสิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น

2.บำรุงสมอง วิตามินเอ วิตามินดี และซีลีเนียม เป็นสารอาหารในปลาแซลมอน อาจมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาท ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ 

3.ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติลดการอักเสบเรื้อรัง ชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่อาจพัฒนานำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็ง 

4.ควบคุมอินซูลิน เพิ่มพลังงานการเผาผลาญ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหาร และป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูง

วิตามินบี 12 เป็นวิตามินละลายน้ำเช่นเดียวกับวิตามินบีอื่น ๆ มีบทบาทสำคัญในสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ปรับปรุงการทำงานของเส้นประสาท และส่งเสริมการทำงานของเมแทบอลิซึมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงสารอาหารเป็นพลังงาน 

วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและพัฒนาการสมอง 

กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยปรับปรุงทำงานของเซลล์ในร่างกาย เป็นแหล่งพลังงานที่ดีในการดำรงชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยง่าย 

วิตามินดี เป็นสารอาหารมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบจากอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงระบบประสาทและเซลล์สมอง การรับประทานวิตามินดีควรอยู่ในแผนอาหารในแต่ละมื้อ เพื่อบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง

ปลาแซลมอนอาจมีการปะปนของสารปรอท หากรับประทานเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ปริมาณสารปรอทในเลือดสูงจนระบบประสาทถูกทำลายลงได้ แถมสารปรอทยังส่ผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาการหายใจ อารมณ์แปรปรวน การเคลื่อนไหวผิดปกติ การมองเห็นและการสื่อสารบกพร่อง

——————

ติดตาม TNN Health ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

Website : https://www.tnnthailand.com/news/health/

Facebook : https://bit.ly/TNNHealthFacebook

Youtube : https://bit.ly/TNNHealthYoutube

TikTok : https://bit.ly/TNNHealthTikTok

Line @TNNHEALTH : https://lin.ee/MNckVHq

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/TNNHealthFacebook