“โรคฝีดาษลิง” ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากนัดพบผ่านแอปฯ ย้ำถุงยางป้องกันไม่ได้!

“โรคฝีดาษลิง” ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากนัดพบผ่านแอปฯ ย้ำถุงยางป้องกันไม่ได้!

สรุปข่าว

วันนี้ ( 23 ส.ค. 66 )นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  ระบุถึงสถานการณ์การติดเชื้อ “โรคฝีดาษลิง” ซึ่งจากการสอบสวนโรคผู้ป่วยในประเทศไทยพบว่าส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าผ่านการนัดพบจากแอปพลิเคชั่น จึงเป็นความเสี่ยงว่าติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก แล้วเมื่อมีการติดเชื้อขึ้นมาก็ไม่สามารถติดตามผู้สัมผัสได้ เพราะมีการยกเลิกบัญชีผู้ใช้งานไปแล้ว ทำให้การสอบสวนโรคทำได้ยากขึ้น


ทั้งนี้จากการสอบสวนโรคเพิ่มเติมพบว่าบางรายเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และ มีการปิดบังตัวตนจริงในการใช้งานแอปพลิเคชั่น  ซึ่งเป็นความน่ากังวล ว่าการติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีการติดต่อเหมือนโรคเอดส์ ที่เริ่มจากคนกลุ่มหนึ่งแล้วมีการกระจายไปกลุ่มอื่นๆ  โดยฝีดาษลิงแม้จะมีการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยแต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อฝีดาษได้ เพราะตุ่มฝีเกิดขึ้นตามร่างกาย หากไปสัมผัสก็รับเชื้อได้


สำหรับผู้ป่วยฝีดาษวานรที่ไม่มีความเสี่ยง สามารถใช้การรักษาตามอาการได้ ซึ่งโรคจะใช้เวลารักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์แล้วก็จะหายได้เอง  โดยขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีการติดเชื้อร่วมกันในบ้าน ทั้งหมดยังเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัส หรืออยู่ร่วมบ้านกันแล้วมีเพศสัมพันธ์กัน 


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดองค์การอนามัยโลก  กำลังศึกษาการใช้ยารักษาผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรโดยเฉพาะชื่อว่าTecovirimat หรือ TPOXX ที่มีเพียง 1 ตัวยาจากบริษัทผู้ผลิตเดียวเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยได้รับยาดังกล่าวมา 100 คน  ขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้และเก็บข้อมูลที่สถาบันบำราศนราดูร 


โดยเกณฑ์ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรที่จะได้รับยาคือ มีการติดเชื้อเอชไอวีที่ระดับภูมิคุ้มกันต่ำ มีการภาวะแทรกซ้อนจากโรคฉวยโอกาส ผู้ที่ปอดอักเสบร่วมด้วย ซึ่งยาชนิดนี้เป็นชนิดรับประทาน ผู้ป่วย 1 คนจะกินเพียง 2 ครั้ง โดยยังอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลการใช้จริงในประเทศไทย รวมถึงข้อมูลผลข้างเคียงจากการได้รับยาด้วย


ภาพจาก :AFP 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ฝีดาษลิงอาการฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิง
ไวรัสฝีดาษลิง
ลิง
ไข้ทรพิษลิง
ไวรัสฝีดาษ
ฝีดาษคน
วัคซีน