ฝีดาษลิงในไทย! ยังเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเพิ่มกว่า 100 คน

ฝีดาษลิงในไทย! ยังเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเพิ่มกว่า 100 คน

สรุปข่าว

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลสุ่มตรวจ "สายพันธุ์ฝีดาษลิง" ยังคงเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่ได้มีการกลายพันธุ์ที่รุนแรงไปจากเดิม


นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  เปิดเผยถึงการสุ่มตรวจสายพันธุ์โรคฝีดาษลิง (Mpox) ว่า การระบาดของฝีดาษลิงในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่ได้มีการกลายพันธุ์ที่รุนแรงไปจากเดิม ขณะที่การระบาดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 100 คน แต่ยังอยู่ในกลุ่มเฉพาะ ประชาชนทั่วไปไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไป

สำหรับกลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย มีพฤติกรรมเสี่ยง อาจจะต้องระมัดระวังมากตัวเองมากขึ้น ควรจะต้องสังเกตอาการและร่างกายตัวเองว่ามี ผื่น ตุ่มหนองขึ้นตามร่างกายหรือไม่ เนื่องจากหากมีผื่นหรือตุ่มหนองหรือสะเก็ดของแผล แล้วยังมีความสัมพันธ์ที่แนบชิดใกล้ชิด ก็อาจจะแพร่สู่คนอื่น หรือคู่นอนได้

ส่วนการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน XBB เป็นหลัก โดยพบมากสุด เป็น XBB.1.16 ส่วน สายพันธุ์ EG.5.1 ที่เพิ่มขึ้นทางฝั่งอเมริกา ยุโรป และฝั่งเอเชีย คือ ประเทศจีนและญี่ปุ่น พบว่า ประเทศไทยจะอยู่ประมาณ 20 คน ซึ่งหากสายพันธุ์ดังกล่าวมีความเร็วในการแพร่ระบาดก็คาดว่า จะแซงสายพันธุ์อื่นๆ ขึ้นมา แต่ขณะนี้ยังไม่พบนัยยะสำคัญ ในเรื่องความรุนแรงของโรคที่ต่างไปจากเดิม

อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามข้อมูลและสถานการณ์ ของสายพันธุ์โควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังคงสุ่มตรวจ ถอดรหัสพันธุกรรมของสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย อยู่เดือนละประมาณ 300 ตัวอย่างจากทั่วประเทศ และส่งรายงานขึ้นในระบบกลางจีเซท โดยการสุ่มตรวจสายพันธุ์โควิด-19 ขณะนี้จะทำสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ปริมาณการตรวจลดลงเล็กน้อยตามสถานการณ์ของโรค



ภาพจาก AFP

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ฝีดาษลิงอาการฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิง
ไวรัสฝีดาษลิง
ลิง
ไข้ทรพิษลิง
ไวรัสฝีดาษ
ฝีดาษคน
วัคซีน