คาดการณ์ ‘ไข้หวัดใหญ่ - ไข้เลือดออก’ ระบาดมากกว่าปีก่อน โควิดยังต้องระวัง

วันนี้ ( 10 ม.ค. 66 ) นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร  อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผลการติดตามสถานการณ์โรคที่อาจจะเกิดการระบาด และโรคที่ต้องเฝ้าระวังในปีนี้ 2567 โดยโรคที่จะระบาดหนัก คือ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ และโควิด -19 ที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจากข้อมูลถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทรงตัว แต่ก็ยังมีการกลายพันธุ์ จึงแนะนำให้ประชาชนป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนปีละ 1 เข็ม 

ขณะที่ไข้หวัดใหญ่ก็คาดการณ์ว่าจะระบาดรุนแรงช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยคาดว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ไม่น้อยกว่า 3 แสน 5 หมื่นราย ซึ่งกรมควบคุมโรคได้เตรียมวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ไว้รอรับมือ ส่วนไข้เลือดออกจะเริ่มระบาดช่วงเดือนเมษายน และปีนี้ก็จะมีผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมาหรือมีผู้ติดเชื้อประมาณ 270,000 ราย เสียชีวิต 280 ราย ดังนั้นประชาชนต้องช่วยกันป้องกันลดความเสี่ยงการติดเชื้อเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัด ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง รอบบ้านในชุมชน  

ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออกมีความน่ากังวลในกลุ่มวัยผู้ใหญ่มากกว่าวัยเด็กเพราะผู้ใหญ่ติดเชื้อมากกว่าและพบเสียชีวิตมากกว่า โดยหากติดเชื้อซ้ำรอบสองอาการจะยิ่งรุนแรงและสามารถติดซ้ำได้มากถึง 4 ครั้ง เพราะเชื้อไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ ขณะที่ยา วัคซีน ในประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันอยู่ 2 ยี่ห้อ แต่อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน

นอกจากโควิด -19 ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก กรมควบคุมโรค ยังขอให้ประชาชนเฝ้าระวังการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กด้วย คาดว่าจะมีเด็กติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นคน จึงเน้นย้ำให้ผู้ปกครองคอยดูแลบุตรหลานป้องกันให้ดี เช่นเดียวกับฝีดาษลิง ที่ถือเป็นโรคเกิดขึ้นใหม่ในไทยถึงจะระบาดไม่มากพบผู้ติดเชื้อ 400 คนก็ต้องเฝ้าระวัง นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆอีกที่จะพบระบาดในปีนี้ เช่น เอดส์ วัณโรค ไข้ดิน ฉี่หนู ไข้หูดับ  โรคซิฟิลิส โรคชิคุณกุนยา  และโรคไวรัสซิกา คล้ายไข้เลือดออกที่จะส่งผลต่อหญิงตั้งครรภ์หากติดเชื้อทารกจะเสี่ยงพิการทางสมองได้ 

ภาพจาก: AFP