เดินลุยน้ำรอการระบาย เท้ามีแผล ต้องระวังโรคฉี่หนู

เดินลุยน้ำรอการระบาย เท้ามีแผล ต้องระวังโรคฉี่หนู

โรคฉี่หนู (Leptospirosis) เกิดจาก การลุยน้ำ หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางแผล หรือผิวหนังอ่อนนุ่ม จากการแช่น้ำนาน และเป็นโรคที่ระบาดมากในฤดูฝน เนื่องจากน้ำฝนจะชะล้างเอาเชื้อโรคต่างๆไหลมารวมกันอยู่ในบริเวณที่น้ำขัง ซึ่งโรคฉี่หนูเกิดจากเชื้อก่อโรคฉี่หนู เป็นแบคทีเรียอยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู หมู สุนัข วัว หรือแม้แต่กระทั่วสัตว์ป่าต่างๆ

หากมีประวัติการเดินลุยน้ำ และมีอาการปวดศรีษะ ไข้ขึ้นสูง ปวดตามกล้ามเนื้อ ควรรีบพบแพทย์ทันที หากปล่อยไว้นานอาการอาจมากถึงขั้นเสียชีวิตได้

สรุปข่าว

หน้าฝนเดินลุยน้ำขังต้องระวังโรคฉี่หนู มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว จะปวดมาก โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา

โรคฉี่หนู (Leptospirosis) เกิดจาก การลุยน้ำ หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางแผล หรือผิวหนังอ่อนนุ่ม จากการแช่น้ำนาน และเป็นโรคที่ระบาดมากในฤดูฝน เนื่องจากน้ำฝนจะชะล้างเอาเชื้อโรคต่างๆไหลมารวมกันอยู่ในบริเวณที่น้ำขัง ซึ่งโรคฉี่หนูเกิดจากเชื้อก่อโรคฉี่หนู เป็นแบคทีเรียอยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู หมู สุนัข วัว หรือแม้แต่กระทั่วสัตว์ป่าต่างๆ

หากมีประวัติการเดินลุยน้ำ และมีอาการปวดศรีษะ ไข้ขึ้นสูง ปวดตามกล้ามเนื้อ ควรรีบพบแพทย์ทันที หากปล่อยไว้นานอาการอาจมากถึงขั้นเสียชีวิตได้

อาการของโรคฉี่หนู มี 2 แบบ คือแบบไม่รุนแรงจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากรู้ตัวและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ กับกลุ่มที่มีอาการรุนแรงที่จะทำให้ตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ และเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้เกิดอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัว และยิ่งไปกว่านั้นหากติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิต

อาการของโรคฉี่หนู

1. มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว จะปวดมาก โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา

2. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น

3. หากมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบไปพบแพทย์ อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้

หากจะป้องกันโรคนี้ต้องหลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง แต่หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบเดิน อย่าแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยเพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และควรใส่รองเท้าบูททุกครั้งเมื่อเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้า และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลที่เท้าหรือน่อง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ที่หนีน้ำกัดได้ ส่วนในผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่ารอให้อาการหนักเพราะอาจจะรักษาไม่หายและเสียชีวิต

ทั้งนี้ยังมีข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ห่างจากโรคดังกล่าวเมื่อจำเป็นต้องเดินลุยน้ำท่วมในช่วงฝนตก

          1. หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนาน ๆ

          2. หากจำเป็นต้องลุยน้ำให้สวมรองเท้าบูทกันน้ำ เพื่อป้องกันของมีคมในน้ำทิ่ม ตำ เท้า

          3. เมื่อกลับถึงบ้าน ให้ล้างทำความสะอาดร่างกายด้วยการฟอกสบู่ และเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า

          4. หากใส่รองเท้าบูทยาง หลังจากใส่เดินลุยน้ำแล้วต้องเทน้ำในรองเท้าออก ล้างทำความสะอาดให้ดี ผึ่งแดดให้แห้ง ก่อนนำมาใช้ใหม่

          5. หากมีบาดแผลตามผิวหนังไม่ควรสัมผัสน้ำสกปรก

          6. เมื่อมีแผล ผื่นที่ผิวหนัง ให้ไปพบแพทย์ และทายาหรือรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

          7. ระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าตา เพื่อป้องกันโรคตาแดง

ที่มาข้อมูล : กรมการแพทย์

ที่มารูปภาพ : Canva