เอ๋ พรทิพย์ ป่วยมะเร็งปอด รู้จักมะเร็งปอด สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

เอ๋ พรทิพย์ ป่วยมะเร็งปอด รู้จักมะเร็งปอด สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

มะเร็งปอดกับชีวิตจริงของเอ๋ พรทิพย์ ภรรยาป๋อ ณัฐวุฒิ

เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ ภรรยาของนักแสดงชื่อดัง ป๋อ ณัฐวุฒิ กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในประเทศไทย กรณีของเธอสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการเฝ้าระวังสุขภาพและตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

มะเร็งปอดคืออะไร

มะเร็งปอดเกิดจากเซลล์ผิดปกติในเนื้อเยื่อปอดที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้ สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ โรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้หลายคนพบโรคเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม

สรุปข่าว

เอ๋ พรทิพย์ ป่วยมะเร็งปอด หนึ่งในมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยวันละ 40 คน ผู้ป่วยใหม่ปีละกว่า 17,000 ราย หากตรวจพบเร็วมีโอกาสรอดชีวิตสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ การรู้ทันและป้องกันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ

มะเร็งปอดกับชีวิตจริงของเอ๋ พรทิพย์ ภรรยาป๋อ ณัฐวุฒิ

เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ ภรรยาของนักแสดงชื่อดัง ป๋อ ณัฐวุฒิ กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในประเทศไทย กรณีของเธอสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการเฝ้าระวังสุขภาพและตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

มะเร็งปอดคืออะไร

มะเร็งปอดเกิดจากเซลล์ผิดปกติในเนื้อเยื่อปอดที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้ สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ โรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้หลายคนพบโรคเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม

สถานการณ์มะเร็งปอดในประเทศไทย

ข้อมูลจากกรมการแพทย์ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปอดรายใหม่ปีละประมาณ 17,222 คน หรือเฉลี่ย 48 คนต่อวัน ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละประมาณ 14,500 คน หรือเฉลี่ยวันละ 40 คน

รายงานสุขภาพคนไทยระบุว่า ในปี 2563 มีผู้ป่วยมะเร็งปอดสะสม 122,104 ราย คิดเป็นอัตรา 186.26 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน

เพศชายและหญิงก็เสี่ยงไม่ต่างกัน

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีรายงานว่า มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย รองจากมะเร็งตับและท่อน้ำดี ส่วนในเพศหญิงพบเป็นอันดับ 4 รองจากมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปอด

• การสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสอง

• การสัมผัสฝุ่นพิษ PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ

• การสัมผัสแร่ใยหิน สารหนู และก๊าซเรดอนในสถานที่ทำงาน

• พันธุกรรมหรือประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง

• อายุที่มากกว่า 40 ปี

อาการของมะเร็งปอดที่ควรระวัง

• ไอเรื้อรัง หรือไอมีเลือด

• หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก

• น้ำหนักลด เบื่ออาหาร โดยไม่ทราบสาเหตุ

• ปวดกระดูก อ่อนเพลีย

• ใบหน้าบวม หรือเสียงแหบในกรณีโรคลุกลาม

จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าผู้ป่วยกว่า 60% มาพบแพทย์ในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะที่รักษาได้ยาก แต่หากตรวจพบในระยะแรก โอกาสรอดชีวิตสูงถึง 80–90 เปอร์เซ็นต์

แนวทางการรักษาที่ใช้ในโรงพยาบาลไทย

• การผ่าตัด เหมาะกับระยะแรกที่ยังไม่แพร่กระจาย

• การใช้เคมีบำบัด เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง

• การฉายแสง สำหรับกรณีที่ผ่าตัดไม่ได้

• ภูมิคุ้มกันบำบัด กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้จัดการเซลล์ผิดปกติ

• การรักษาแบบมุ่งเป้า สำหรับมะเร็งที่มีการกลายพันธุ์เฉพาะจุด

การป้องกันที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้

• เลิกบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่จากผู้อื่น

• หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ และสถานที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง

• รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ขิง แอปเปิล ปลา

• ตรวจสุขภาพปอดปีละครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ทำไม มะเร็งปอด ถึงพบมากขึ้นในคนไม่สูบบุหรี่ ? 

ในอดีตมะเร็งปอดมักถูกเชื่อมโยงกับพฤติกรรมสูบบุหรี่เป็นหลัก แต่ในช่วงหลังกลับพบว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเพศหญิงและกลุ่มคนวัยทำงานในเขตเมือง ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งในหลายประเทศ รวมถึงในไทย ระบุว่าราว 10–25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเป็นผู้ไม่สูบบุหรี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

สาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป คนเมืองจำนวนมากต้องเผชิญฝุ่น PM2.5 และสารก่อมะเร็งในอากาศอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากควันรถยนต์ ควันโรงงาน หรือการเผาในที่โล่ง รวมถึงควันบุหรี่มือสองในบ้านและที่ทำงาน สำหรับผู้หญิง ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการประกอบอาหารในพื้นที่ปิด โดยเฉพาะการใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันต่ำ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจและเซลล์ปอดในระยะยาวได้เช่นกัน



ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Freepik

บรรณาธิการออนไลน์