แนวโน้มผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในไทยยังเพิ่มต่อเนื่อง

แพทย์หญิงคัคนานต์ เทียนไชย อายุรแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในปี 2568 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวล

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H1N1) ระบาดหนัก

เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยเฉพาะ H1N1 เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปีนี้ ส่วนใหญ่กลุ่มที่ติดเชื้อ   เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป อีกทั้งที่ผ่านมายังพบผู้ป่วยติดเชื้อหลายโรคพร้อมกัน เช่น ไข้หวัดใหญ่ร่วมกับโควิด19 ที่ส่งผลให้อาการรุนแรง โดยพบผู้ป่วยลักษณะนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของประชาชนที่เริ่ม สวมหน้ากากอนามัยน้อยลง รวมถึงสภาพอากาศชื้นจากฤดูฝนที่ช่วยกระตุ้นการระบาด

เตือนภัยติดเชื้อร่วม “ไข้หวัดใหญ่ + โควิด-19” เสี่ยงอาการรุนแรง

อีกหนึ่งประเด็นที่แพทย์ให้ความสำคัญคือ การพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ร่วมกับโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งอาจส่งผลให้อาการทรุดลงรวดเร็วและต้องเข้ารับการรักษาแบบใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งนี้ยังพบว่ากลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเรื้อรัง ก็มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อพร้อมกันหลายโรค

7 กลุ่มเสี่ยงควรเร่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

แพทย์แนะนำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งได้แก่

1.เด็กเล็ก

2.ผู้สูงอายุ

3.ผู้มีโรคประจำตัวหรือภูมิคุ้มกันต่ำ

4.หญิงตั้งครรภ์

5.ผู้พิการทางสมอง

6.บุคลากรทางการแพทย์

7.ผู้ที่อาศัยร่วมกับผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ แม้ผู้ที่เคยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มาแล้ว ก็ควรได้รับวัคซีนกระตุ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์อื่นและลดความรุนแรงของโรคหากป่วยซ้ำ

ข้อแนะนำประชาชน: ป้องกันไว้ก่อนด้วยวัคซีนและสุขอนามัย

นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การป้องกันตนเองยังคงเป็นเรื่องสำคัญ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด หมั่นล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ที่มีอาการป่วย ทั้งนี้หากมีอาการไข้ ไอ จาม ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินอาการทันที